svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ตามหาวุ่น สาวทะเลาะผัว คิดว่าโดดน้ำตาย ที่แท้หนีกลับบ้าน สุดทนประกาศแยกทาง

ตามหาวุ่น สาวทะเลาะผัว คิดว่าโดดน้ำตาย งมหา 2 ชม. ไม่เจอร่าง ที่แท้หนีกลับบ้าน หลังถูกผัวกดดันไม่ให้ไปไหน แถมฟางเส้นสุดท้าย จะกลับบ้านหาแม่ ถูกขวางรถใช้เท้าถีบกระจกจนแตก เมียลั่นอย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีก

4 มิถุนายน 2566 ที่ จ.อุทัยธานี ตำรวจ สภ.เมืองการุ้ง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีสามีภรรยาทะเลาะกัน แล้วภรรยาวิ่งหนีหายลงไปในสระน้ำ ที่ ม.3 ต.บ้านใหม่คลองเคียน อ.บ้านไร่ หลังได้รับแจ้ง ได้ประสานไปยังกู้ภัยอุทัยธานีชุดประดาน้ำ จุดเมืองการุ้ง และจุดใกล้เคียง ให้มาช่วยกันงมร่างหาหญิงสาว ที่เป็นภรรยาของสามีดังกล่าว  
ตามหาวุ่น สาวทะเลาะผัว คิดว่าโดดน้ำตาย ที่แท้หนีกลับบ้าน สุดทนประกาศแยกทาง

ที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านยืนดูมุงอยู่ที่บริเวณขอบสระน้ำ ลึกประมาน 4 เมตร กว้างประมาน 1 งาน แถวบริเวณที่ทำไร่ จนท.กู้ภัยชุดประดาน้ำ ลงงมร่างหาหญิงสาวนานกว่าหลายชั่วโมง แต่ก็ยังไร่วี่แวว กระทั่งต่อมา ได้มีชาวบ้านมาบอกว่า พบหญิงสาวแล้ว ไม่ได้จมน้ำ แต่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง จึงได้ยุติการค้นหาใต้น้ำ
ตามหาวุ่น สาวทะเลาะผัว คิดว่าโดดน้ำตาย ที่แท้หนีกลับบ้าน สุดทนประกาศแยกทาง

สอบถามสามีผู้สูญหาย ชื่อนายเอนก หรือ นายหนู อายุ 36 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นสามีของผู้สูญหาย ชื่อ น.ส.เกสรา หรือ ม่วย ช่วงเกิดเหตุตนและ น.ส.ม่วย มีปากเสียงกัน โดยนายหนู บอกว่า เป็นห่วงภรรยา ไม่อยากให้ภรรยาของตนออกไปไหน อยากให้ช่วยกันทำงาน

แต่ทางด้านภรรยาของตนนั้น จะออกไปข้างนอกอย่างเดียว ตนโมโหจึงเดินไปขวางที่หน้ารถ แล้วก็ขึ้นไปพังรถของ น.ส.ม่วย ที่ด้านหน้ารถจนกระจกแตก จากนั้นภรรยาก็วิ่งหายไปที่บริเวณขอบสระน้ำดังกล่าว ต่อมาตนก็ได้บอกกับชาวบ้านว่า ให้ช่วยออกกันตามหา น.ส.ม่วย แถวบริเวณตามป่าอ้อย แต่ก็ไม่พบ จึงคิดว่าภรรยาต้องกระโดดลงในน้ำอย่างแน่นอน
นายเอนก หรือ นายหนู สามีผู้สูญหาย

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของ น.ส.ม่วย ที่ ม.9 ต.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ ได้เปิดเผยว่า ตนอยู่กินกับนายหนูมาเกือบ 2 ปี รู้สึกอึดอัดใจ มีความกดดัน ไม่เคยออกไปทำธุระที่ไหน บางครั้งคนเราก็ต้องมีธุระกันบ้าง แต่ทางด้านนายหนู ไม่เคยเข้าใจ จนเกิดปัญหาทะเลาะกันมาเรื่อย 
น.ส.ม่วย ผู้สูญหาย  

ล่าสุดช่วงเกิดเหตุ ตนขอนายหนูว่า จะไปทำธุระ ไปหาแม่บ้าง ญาติบ้าง แต่ไม่เคยได้ไป ตนรู้สึกอึดอัดใจ แล้วเกิดมีปากเสียงกัน ต่อมาตนจะขับรถกระบะของตนออกไปข้างนอก แต่นายหนูกลับมาขวาง แล้วก็ขึ้นมาเหยียบบนรถ ซ้ำยังใช้เท้าเหยียบกระจกจนแตก

ตนเห็นท่าไม่ดี จึงวิ่งออกจากรถ ผ่านขอบสระน้ำดังกล่าวไป แล้วก็วิ่งเข้าไปในป่า ไปโผล่อีกหมู่บ้านหนึ่ง จึงได้ยืมมือถือชาวบ้านโทรหาญาติให้มารับ ครั้งนี้ตนจะไม่ขอกลับไปใช้ชีวิต ร่วมกับนายหนูอีก พร้อมกับขอให้มาชดใช้ค่าเสียหายกระจกรถยนต์ของตนด้วย แล้วต่างคนต่างอยู่ไป 
รถยนต์ของ น.ส.ม่วย ที่เสียหาย  

ด้าน นางสายลม อายุ 61 ปี แม่ของ น.ส.ม่วย เปิดเผยด้วยความทุกข์ใจว่า นายหนูกับลูกสาวมีปัญหาทะเลาะกันเรื่อย นายหนูนั้นคอยจะห้าม จะหวง ไม่ค่อยให้ออกไปรับจ้างที่ไหน จะไปทำงานหาเงินด้วยตัวเองก็ห้าม

ตนเคยเตือนลูกสาวหลายครั้งแล้ว แต่ลูกสาวไม่เชื่อว่า จะอดจะอยากก็ขออย่าให้ทุกข์ พอมาเจอปัญหากับตัวเอง ก็วิ่งเข้ากอดแม่  ทั้ง ๆ ที่แม่เคยสอนลูกเสมอ ครั้งนี้ตนเองคาดว่า สาวคงจะทุกข์แล้วเกิดความกดดันในครั้งนี้ 
นางสายลม อายุ 61 ปี แม่ของ น.ส.ม่วย