29 พฤษภาคม 2566 เมื่อเวลา 08.00 น. ตำรวจ สภ.หลังสวน ได้รับแจ้งเกิดเหตุชายคลุ้มคลั่ง (ไม่ทราบชื่อ) ถืออาวุธปืนเข้ามาในโรงเรียนภูบดินทร์พิทยาลัย ต.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร จับตัวเด็กไว้ 1 คน บริเวณหน้าเสาธง
ต่อมาเวลา 08.32 น. ฝ่ายบริหารโรงเรียนภูบดินทร์พิทยาลัยประกาศแจ้งสถานการณ์ฉุกเฉิน (สีแดง/อาวุธปืน) ในโรงเรียนเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนทุกคน ขออนุญาตปิดประตูใหญ่ของโรงเรียนและหากท่านผู้ปกครองประสงค์จะรับเด็กนักเรียนขอให้แจ้งผ่านทางไลน์กลุ่มผู้ปกครองเพื่อรับนักเรียนเท่านั้น ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เป็นที่เรียบร้อย คณะครู บุคลากร และนักเรียนทุกคนปลอดภัย
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.56 น. โรงเรียนได้ออกแถลงการณ์เหตุฉุกเฉิน ฉบับที่ 1/29-5-66 ระบุว่า ทางโรงเรียนภูบดินทร์พิทยาลัยขออนุญาตแถลงการณ์ชี้เป็นประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
ด้วยความนับถือ
ภูบดินทร์พิทยาลัย
ดร.ปุณณพร ชินบุรารัตน์ หนึ่งในทีมผู้บริหารของโรงเรียน กล่าวว่า เวลาประมาณ 08.00-08.30 น. ขณะที่นักเรียน และคณะครู กำลังเข้าแถวที่หน้าเสาธง ได้มีครูสังเกตเห็นชายคนหนึ่งถือห่อผ้า มีพานท้ายปืนโผล่ออกมา จึงส่งสัญญาณ CODE 3 (รหัสแดง) หมายถึงเหตุฉุกเฉิน ทำให้คณะครูทราบทันทีว่ามีเหตุร้าย จึงรับนำนักเรียนเข้าห้องเรียน และ ล็อกประตูทันที พร้อมทั้งแจ้งเหตุไปยัง สภ.หลังสวน ตามมาตรการความปลอดภัย
จากนั้นครูได้เข้าไปถามชายคนดังกล่าวว่า ต้องการอะไร ชายคนดังกล่าว อายุไม่เกิน 50 ปี ตอบว่า ต้องการรับตัวลูกชายกลับบ้าน จึงประสานงานจนพบตัวลูกชาย และรับลูกชายกลับไป เหตุการณ์เกิดขึ้นเพียง 10 นาที ต่อมาตำรวจได้เข้าตรึงกำลังในพื้นที่โรงเรียน โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนเรื่องอื่น ๆ ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประพฤทธิ์ อันประสิทธิ์ รองผกก. ป.สภ.หลังสวน ชุดสืบสวน ชุดเคลื่อนที่เร็ว 20/221 รายงานไปยังกองบังคับการ ว่า "รับแจ้งจาก 191 ว่า มีชายคลุ้มคลั่ง ถือปืนเข้ามาในโรงเรียนภูบดินทร์เพื่อมารับลูก และ เข้าใจผิดคิดว่าลูกโดนรังแก จึงจะไปรับลูกกลับมาที่บ้าน โดยพาอาวุธปืนติดตัวไปด้วย ทำให้เกิดการแตกตื่นในโรงเรียน
หลังจากรับลูกมาแล้วได้ขับรถเวียนไปบริเวณตลาดอวยชัย 2 ซึ่งเป็นบ้านพี่ชาย เมื่อชายดังกล่าวเห็นตำรวจติดตามไป จึงขับรถหลบหนี กลับมายังที่บ้านพัก ข้างห้างโลหัส ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ระหว่างการติดตามไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตำรวจนำทีมควบคุมพื้นที่อยู่บริเวณหน้าหมู่บ้าน และ พยายามประสานพ่อแม่ของชายดังกล่าวมาเจรจาเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว