โจรโหดย่องขึ้นบ้านสองสาว ก่อนแทงเจ้าของบ้านดับ 1 เจ็บ 1 ตร.เร่งล่าตัว

19 พฤษภาคม 2566 ร.ต.ท.อิทธิยา นาคมอญ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ที่บ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ 7 ต.แม่หล่าย อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นรินทร์ วรรณมณี ผกก.สภ.เมืองแพร่ เจ้าหน้าที่กู้ชีพเมืองไชย เทศบาลตำบลแม่หล่าย เจ้าหน้าที่สมาคมอาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดแพร่ แพทย์เวรโรงพยาบาลแพร่พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดแพร่ 

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ชั้นล่าง พบ น.ส.กัญญาวี (สงวนนามสกุล) หรือน้องมิ อายุ 19 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธมีด บริเวณราวนมข้างซ้าย และท้องด้านซ้าย เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลแพร่ ตลอดทางขึ้นไปชั้นบนบ้านพบรอยเลือดตามทาง 

ตรวจสอบบนห้องนอนของผู้บาดเจ็บ พบผู้เสียชีวิตนอนอยู่บริเวณข้างเตียง สภาพสวมเสื้อสีน้ำเงินกางเกงขาสั้นสีดำ ทราบชื่อคือ นางชนม์ชนก (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าและแม่บุญธรรม ของผู้บาดเจ็บ

ตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบปลอกมีดลักษณะเป็นไม้พันด้วยสก๊อตเทปพันสายไฟและพลาสติกใสยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ของผู้ต้องสงสัยตกอยู่บนที่นอนในห้อง และมีเลือดกระจาย หน้าต่างบนหัวเตียงถูกเปิดทิ้งไว้  บริเวณห้องข้าง ๆ ซึ่งเป็นห้องเก็บของ พบประตูถูกเปิดไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบรอยนิ้วมือ และ ดีเอ็นเอ

สอบถามผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 เล่าว่า ตนพึ่งกลับจากโรงพยาบาลไปดูอาการผู้ได้รับบาดเจ็บมา เบื้องต้นยังรู้สึกตัวดี เล่าให้ฟังว่า ได้ยินคนร้ายคล้ายเขย่ากระปุกออมสินข้างบน แล้วอุดปากของน้องมิไว้ จากนั้นแม่บุญธรรมคือ  นางชนม์ชนก ได้ยินเสียงจึงเข้ามาในห้อง  คงคิดว่าทำไมลูกหลับดึก ซึ่งมาดูเจอเข้าจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะนั้นน้องยังมีสติดีอยู่ ออกไปเรียกคนข้างบ้าน โทรหาญาติ ผู้บาดเจ็บบอกว่าเป็นมีดยาว ๆ สีขาว 

จากนั้น เวลาประมาณ 04.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบวงจรปิดตามเส้นทางพบว่า ผู้ต้องสงสัยหลบหนีเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่ง จึงเข้าไปสอบถามพบว่าเป็นบ้านผู้รับเหมาก่อสร้าง ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าเป็นนายจ้างของผู้ต้องสงสัย ให้การเบื้องต้นว่า ผู้ต้องสงสัย คือนายท๊อป เป็นคนงานบ้านปง อ.เด่นชัย จ.แพร่ เพิ่งจ้างมาขับรถให้ได้เพียง 1-2 เดือน โดยหลังทราบเหตุจึงรีบตรวจสอบทรัพย์สินในบ้าน พบว่ารถกระบะอีซูซุ ทะเบียนแพร่ ถูกนายท๊อปขโมยไป ตรวจสอบวงจรปิดขับออกไปเวลาประมาณ 01.58 น. ซึ่งตำรวจตรวจสอบพบว่ามีการติดต่อภรรยาว่าจะไปเก็บของ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมามีรายงานว่า  พบรถกระบะคันดังกล่าวที่นายท๊อปขโมยไป จอดทิ้งไว้ในพื้นที่ ต.ปงป่าหวาย อ.เด่นชัย จ.แพร่  ส่วนตัวนายท๊อป ซึ่งเป็นหลานเขยผู้ตาย หลบหนีเข้าป่า

ล่าสุด ภรรยาของผู้ต้องสงสัย ได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจ โดยเล่าว่า ตนเองอยู่กินกับนายท๊อปมา 2 ปี และเพิ่งมีปัญหากันเมื่อวันที่ 5 พ.ค.66 ที่ผ่านมา นายท๊อปได้ทำร้ายร่างกายตนและมีปัญหาเรื่องยาเสพติด จึงแยกกันอยู่  โดยช่วงเกิดเหตุตนไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้ยังไงแต่เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ของคืนเกิดเหตุนายท๊อปได้ติดต่อมาหาตนทางเฟซบุ๊ก ว่าอยู่ใกล้บ้าน และข่มขู่จะเผาบ้านตน จากนั้นก็เงียบหายไป และพยายามติดต่อมาแต่ตนไม่รับสาย จนมาทราบเรื่องเพราะน้องมิ โทรมาบอกกับแม่ว่าเกิดเรื่องเมื่อตอนตี 2 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นประมาณ 6 โมงเช้า นายท๊อปติดต่อมาอีก และยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุ ตนจึงเกลี้ยกล่อมบอกให้นายท๊อปมอบตัว แต่นายท๊อปก็เงียบไม่ตอบอะไร ตอนนี้ อยากให้ตำรวจตามจับมาให้ได้ เพราะกลัวมากเนื่องจากนายท๊อปขู่จะฆ่า

ด้าน พี่สาวของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า เบื้องต้นอาการน้องมิพ้นขีดอันตรายแล้วหมอกำลังรักษาที่ รพ.แพร่ เบื้องต้น ได้พูดคุยกับน้อง น้องเล่าให้ฟังว่าในช่วงเกิดเหตุน้องกำลังนอนหลับอยู่ได้ยินเสียงกระปุกออมสินดัง จึงลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นเป็นผู้ชายใส่กางเกงลายพรางมีไฟฉายคาดหัว แต่ก็ยังไม่กล้าขยับแกล้งนอนหลับตาต่อ จนได้ยินเสียงประตูห้องของแม่บุญธรรม จึงรีบตะโกนบอกให้แม่มาช่วยแต่ถูกชายคนดังกล่าวเอามือมาปิดปากแล้วสั่งห้ามว่าให้เงียบ พอได้ยินเสียงน้องจึงจำได้ว่าเป็นนายท๊อป จากนั้นแม่ก็เปิดประตูห้องเข้ามาถือไม้มาตีนายท๊อป น้องมิก็กัดที่มือนายท๊อป นายท๊อปก็ใช้มีดแทงแม่และทำร้ายน้องมิแล้วหลบหนีไป