svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ตร.รวบ "ไอ้แจ๊ค" มือฆ่าปาดคอเผาศพอำพราง สาวใหญ่เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า

10 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คนร้ายตัวจริง ตร.รวบ "ไอ้แจ๊ค" มือฆ่าปาดคอเผาศพอำพราง สาวใหญ่เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า อ้างวันเกิดเหตุแค่จะหวังขโมยของ แต่ผู้ตายตื่นมาเจอ หลังก่อเหตุเตรียมอำพรางให้ไฟไหม้ร้าน

10 พฤษภาคม 2566 ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมอำพราง นางวรรณา หรือ ณา (สงวนนามสกุล) อายุ 51ปี ที่เสียชีวิตในห้องนอนภายในร้านขายของเก่า ถนนบางกรวย-ไทรน้อย (มุ่งหน้าตลาดบางบัวทอง) ในสภาพถูกมัดมือ ถูกเผาตั้งแต่อกไปถึงศีรษะ ซึ่งเบื้องต้นตำรวจ สภ.บางบัวทอง ควบคุมผู้ต้องสงสัยไว้ 2 ราย เป็นหลานของผู้เสียชีวิต หลังจากสอบปากคำแล้วมีท่าทีพิรุธ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ตร.รวบ \"ไอ้แจ๊ค\" มือฆ่าปาดคอเผาศพอำพราง สาวใหญ่เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า
 

ล่าสุด พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.นนทบุรี และ พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ร่วมกันแถลงจับกุมตัว นายพงศ์ภัทร หรือ แจ๊ค จันทรเสนา อายุ 35 ปี อดีตคนงานร้านรับซื้อของเก่า ผู้ต้องหาคดีฆ่าปาดคอและเผาอำพราง น.ส.วรรณา ที่สามารถจับกุมได้ที่ ต.บางพลี อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางรถ จยย.สีแดง-ดำ และสร้อยข้อมือทองคำนำหนัก 1 บาท ของผู้ตาย 

การจับกุมสืบเนื่องจาก หลังเกิดเหตุทางตำรวจได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ผู้เสียชีวิตถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิต ก่อนถูกเผาอำพรางคดี จึงได้นำตัว นายสุทโธ รินเพ็ง สามีผู้ตาย , นางบุญล้อม รินเพ็ง พี่สาวนายสุทโธ , น.ส.นิตยา รินเพ็ง , นายทวีศักดิ์ รินเพ็ง และนายวิพัฒน์ ไชยมาสุข หลานของ นายสุทโธ มาสอบปากคำ ทั้งหมดให้การปฏิเสธ ไม่รู้เรื่องการเสียชีวิตของ น.ส.วรรณา 
นายพงศ์ภัทร หรือ แจ๊ค จันทรเสนา อายุ 35 ปี มือฆ่าตัวจริง
 

จากนั้นชุดสืบสวน ได้ขยายผลเพิ่มเติมว่า ยังมีหลานของนายสุทโธ คือนายพงษ์ภัทร หรือแจ๊ค เคยทำงานที่ร้านนี้แล้วถูกไล่ออก เนื่องจากประพฤติตัวไม่ดี ประกอบกับข้อมูลหลักฐานที่ทางตำรวจ ได้จากชาวบ้านที่อยู่ใกล้ร้านรับซื้อของเก่า  ให้ข้อมูลว่า เห็นรถ จยย. สีแดง ขี่ออกจากหน้าร้านในช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. จึงไล่กล้องตรวจสอบเส้นทางพบว่า  รถคันดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังไปตรวจสอบ
นายพงศ์ภัทร หรือ แจ๊ค จันทรเสนา อายุ 35 ปี  

ก็พบว่า เป็นรถของ นายหนุ่ม (นามสมมุติ) ที่ นายพงษ์ภัทร หรือแจ๊ค ขอยืมไปใช้ โดยไม่ทราบว่า นำไปก่อเหตุ ตำรวจจึงยึดรถคันดังกล่าวมาตรวจสอบ ต่อมาได้นำกำลังบุกเข้าจับกุมตัวนายพงศ์ภัทร หรือแจ๊ค ได้ที่บ้าน ก่อนนำตัวมาสอบสวน และให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่า น.ส.วรรณา จริง โดยอ้างว่า วันที่เกิดเหตุ ตั้งใจจะไปขโมยของในร้าน แต่ผู้ตายตื่นมาเจอ และจะโทรแจ้งนายสุทโธ

ด้วยความกลัวความผิด จึงแย่งโทรศัพท์ ขณะที่ผู้ตายตะโกนร้องให้คนอื่นมาช่วย จึงใช้ผ้าอุดปาก เพื่อไม่ให้ส่งเสียง แล้วใช้สายไฟมัดมือและเท้าของผู้ตาย จากนั้นจึงใช้มีดปาดที่ลำคอ ก่อนนำสร้อยข้อมือทองคำของผู้ตายไปด้วย โดยได้จุดเทียนแล้วนำเศษกระดาษ ทำเป็นเชื้อเพลิง หวังจะให้เกิดเพลิงไหม้ในร้านขายของเก่าเพื่ออำพรางศพ และได้หลบหนีไปพร้อมนำทองไปขายที่ร้านทองแถว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี กระทั่งถูกตำรวจติดตามมาจับกุมตัว 
ตร.รวบ \"ไอ้แจ๊ค\" มือฆ่าปาดคอเผาศพอำพราง สาวใหญ่เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า

ภายหลังจากการแถลงข่าว พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายพงษ์ภัทร หรือ แจ๊ค ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่าง ๆ เริ่มจากจุดแรกที่นายพงษ์ภัทร ขี่รถมาจอดที่หน้าร้าน ก่อนจะปีนข้ามประตูรั้วเข้าไปภายในร้าน , จุดที่ 2 หน้าห้องพักของผู้ตาย ซึ่งนายพงษ์ภัทร หยิบมีดปลายแหลม ที่วางอยู่ที่โต๊ะหน้าห้องมาเหน็บไว้ที่หลัง และจุดที่ 3 ห้องเกิดเหตุ

ซึ่งนายพงษ์ภัทร ให้การว่า ขณะผู้ตายเปิดประตูออกมาเจอตนเองโดยบังเอิญ  ได้พูดขอเงินผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่ยอมให้  จนมีปากเสียงทะเลาะกัน จึงใช้มีดที่เหน็บอยู่จี้ผู้ตายเข้าไปภายในห้อง  ก่อนจะใช้สายไฟมัดผู้ตายและใช้ผ้าปิดตาอุดปากผู้ตาย หลังจากนั้นจึงใช้มีดปาดคอผู้ตาย 2 ครั้งจนเสียชีวิต ก่อนถอดสร้อยคอมือทองคำของผู้ตายหลบหนีไป 
ตร.รวบ \"ไอ้แจ๊ค\" มือฆ่าปาดคอเผาศพอำพราง สาวใหญ่เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า

ทั้งนี้ระหว่างทำแผนนายพงษ์ภัทร ร้องไห้ตลอดเวลา สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป และอยากขอขมาศพผู้ตาย โดยการทำแผนใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากนั้น ตำรวจต้องรีบนำตัวนายพงษ์ภัทร กลับขึ้นรถทันที่ เพราะมีญาติของผู้ตายและประชาชน ที่มารอดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก พยายามบุกเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ และตะโกนสาปเเช่งขอให้ตายตกไปตามกัน
ตร.รวบ \"ไอ้แจ๊ค\" มือฆ่าปาดคอเผาศพอำพราง สาวใหญ่เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า

ขณะที่ นายสุทโธ รินเพ็ง สามีผู้ตาย ให้ข้อมูลทั้งน้ำตาว่า ไม่คิดว่าจะเป็นหลานที่ก่อเหตุครั้งนี้ ทั้งที่ผู้ตายคอยดูแลเมตตาสงสารมาตลอด เมื่อก่อนเคยทำงานที่ร้าน แต่พฤติกรรมไม่ดี ตนเจึงไล่ออกไป ผู้ตายยังสงสาร ให้ไปพักอยู่ที่ร้านด้านนอก โดยวันเกิดเหตุทราบจากตำรวจว่า มีการขับรถวนดูตนอยู่ที่ไหนด้วย ไม่คิดว่าจะเหี้ยมโหดแบบนี้ จึงอยากให้เขาได้รับกรรมตายตกตามไป
นายพงศ์ภัทร หรือ แจ๊ค จันทรเสนา อายุ 35 ปี
 

logoline