
23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ จ.กาฬสินธุ์ นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูล รองประธานกรรมการ ธรรมมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ผู้อาศัยอยู่ในเขตก่อสร้าง ระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองกาฬสินธุ์ หลังได้รับความเดือดร้อน ในการใช้เส้นทางสัญจร การใช้ชีวิตประจำวัน มีความลำบาก เนื่องจากมีการก่อสร้างโครงการดังกล่าว มาตั้งแต่ ปี 2562 และสิ้นสุดสัญญาว่าจ้าง ปี 2564 แต่ยังไม่แล้วเสร็จ
ซึ่งในระหว่างนี้ ผู้รับเหมาก่อสร้าง มีการขุดเจาะถนนทิ้งเอาไว้ โดยไม่ได้ฝังกลบ และยังวางอุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องจักร ทิ้งกีดขวางเส้นทางที่ประชาชน ใช้สัญจรไปมา รวมไปถึงในเรื่องของไฟฟ้าส่องสว่าง ในเวลาค่ำคืนก็ไม่มี เกิดอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนมานาน
“ตนในฐานะตัวแทนประชาชน จึงอยากจะฝากถึง กรมโยธาธิการและฝังเมืองส่วนกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดหลัก ที่เป็นผู้ว่าจ้าง ได้เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ให้การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง”
ขณะเดียวกัน นายประภังกร วงศ์โต ที่ปรึกษาโครงการฯ เปิดเผยว่า ปัญหาอุปสรรค์ของโครงการนั้น เกิดขึ้นจากที่ผู้รับเหมา ไม่ค่อยมีคนงานก่อสร้าง ทำให้การทำงานล่าช้าบ้าง แต่หลังจากที่ อธิบดีกรมโยธาธิการและฝังเมือง เดินทางมาเร่งรัดการก่อสร้าง ขณะนี้ผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้นำเครื่องจักรกลลงทำงานตามไซต์งาน ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ มีความคืบหน้าไปได้ 62 % โดยภายในสิ้นปีนี้ จะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการ
ขณะที่ นายอัมพร อิ่มเสถียร อายุ 57 ปี และนางหอมหวล อิ่มเสถียร อายุ 53 ปี สองสามีภรรยา ที่มีบ้านพักอาศัย อยู่ติดถนนที่มีการก่อสร้าง ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมีอาชีพค้าขายของชำมานานกว่า 20 ปี โครงการก่อสร้างดังกล่าวล่าช้ามาก ทำตนได้รับผลกระทบในการทำมาค้าขาย หลังจากมีการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ธุระกิจค้าขายก็หยุดงักไป เนื่องจากลูกค้าไม่สามารถสัญจร มาซื้อของที่ร้านได้
มิหน่ำซ้ำ เมื่อโครงการมาเริ่มก่อสร้างอีกครั้ง ผู้รับเหมาได้มีการตอกเสาเขา จนทำให้พื้นปูนที่บ้านแตกร้าว เสาบ้านก็ทรุดตัว หลังคาบ้านก็ทรุดลงมาตาม ทรัพย์สินในบ้านได้รับความเสียหาย จึงอยากจะขอความเห็นใจ ขอให้ผู้รับเหมา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลซ่อมแซม ในส่วนที่บ้านได้รับความเสียหายด้วย