สามีและแม่มั่นใจ "น้องฟ้า" สาววัย 14 ปี ไม่โกหกถูกชาย 15 คนรุมโทรม

23 กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณี น.ส.ฐิตาพร (สงวนนามสกุล) หรือแก้ม อายุ 25 ปี ได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ระบุว่า นายปริญญา (สงวนนามสกุล) หรือเต๋า อายุ 27 ปี สามี และเพื่อนอีก 2 คน ถูกตำรวจ สภ.นาด้วง จ.จับกุม หลังชายอายุ 50 ปี แจ้งความว่า ภรรยาสาววัย 14 ปี ถูกสามีของตนเองและเพื่อนอีก 2 คน ร่วมกันรุมโทรม ตนเองเห็นว่า พยานหลักฐานที่สามีตนเองถูกจับนั้นไม่เพียงพอ และเชื่อว่าสามีเป็นแพะ

ขณะเดียวกัน ยังมีชาวบ้านในหมู่บ้านชมเจริญ หมู่ 1 และหมู่ 6 รวม 11 คน ถูกแจ้งข้อหารุมโทรมเด็กหญิงวัย 14 ปี คนเดิมกับพื้นที่ สภ.นาด้วง จนทำให้ชาวบ้านกว่า 50 คน ลุกฮือประท้วง หน้า สภ.เชียงกลม พร้อมระบุว่า เท่าที่รู้ผู้ต้องหาทั้ง 11 คน ที่ถูกศาลออกหมายจับ เพียงแค่เด็กหญิง 14 ปี เป็นคนชี้จากภาพถ่ายในทะเบียนราษฎร์ ที่ตำรวจเอาให้เด็กดูเท่านั้น ส่วนหลักฐานอื่น ๆ ไม่มีเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• พบพิรุธ คดีชายนับสิบขืนใจสาว 14 มีชื่อนักโทษ-รองสารวัตรสืบ โผล่ก่อเหตุด้วย
• สามีแจ้งจับชายนับสิบ ขืนใจภรรยาสาว 14 ปี โวยลั่นไม่มีหลักฐาน เชื่อแค่ชี้รูป

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดิน ทางไปพบกับ นายกานิเทศ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี สามีของ "น้องฟ้า" วัย 14 ปี ผู้เสียหาย โดยวันนี้สามีของน้องฟ้า ได้ยืนยันคำเดิมว่า เรื่องที่ภรรยาของตนเองถูกชาวบ้าน 15 คน แบ่งเป็น 2 คดี ร่วมกันรุมโทรมนั้นเป็นเรื่องจริง

คดีแรกในพื้นที่ สภ.เชียงกลม ได้ร่วมกันรุมโทรมภรรยาของตนเอง ตั้งแต่ปี 63 ซึ่งขณะนั้น ตนเองยังไม่รู้จักกับน้องฟ้าส่วนคดีที่ 2 ชาวบ้าน 4 คน ในพื้นที่ สภ.นาด้วง เกิดขึ้นตั้งแต่ ต้น พ.ย. 65 ถึง 23 ม.ค 66 ซึ่งขณะนั้น ตนเองได้คบหาและได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว
 

นายกานิเทศ เล่าต่อว่า ตนมารู้ภายหลังว่า เมียรักถูกชาวบ้านหลายสิบคนรุมโทรม เนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ตนกำลังเข้าไปรับจ้างกรีดยางที่สวนยางชาวบ้าน โดยพาภรรยาไปนอนรอที่สวนยางด้วย ระหว่างกำลังกรีดยาง ซึ่งอยู่ห่างจากภรรยา 200 เมตร เมื่อกรีดยางเสร็จกลับมา เห็นภรรยามีหน้าเศร้าหมอง และบ่นปวดท้อง จึงพยายามเค้นถามความจริง

ภรรยาจึงยอมสารภาพว่า ตนเองถูกชายฉกรรจ์ 4 คน ขี่รถมอเตอร์ไซค์มา 2 คัน แอบย่องเข้ามาขืนใจ โดยเรียงคิวกันจนเสร็จกิจทีละคน ตนเองได้ฟังแล้วตกใจมาก และเค้นถามต่อว่า เคยถูกกระทำแบบนี้อีกไหม ภรรยาบอกว่า ถูกทำมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่กล้าบอกใคร เพราะทุกครั้งจะถูกชายพวกนั้น ข่มขู่ไว้ว่า หากนำเรื่องไปบอกใคร แม่และพี่ชายจะถูกฆ่า ด้วยความกลัวจึงไม่กล้าบอกใคร

 

นอกจากนี้ นายกานิเทศ ยังได้พาทีมข่าวไปดูสถานที่ที่ภรรยา ให้ข้อมูลว่า ก่อนที่จะถูกชาวบ้าน 4 คนรุมโทรม ในพื้นที่ สภ.นาด้วง นั้น ก่อนหน้านี้เมื่อปี 63 เคยถูกชาวบ้านอีกหมู่บ้านหนึ่ง ใกล้กัน รวม 11 คน ก่อเหตุพาตัวไปรุมโทรม บริเวณใต้ต้นมะเดื่อ ซึ่งอยู่หลังบ้าน

ซึ่งจากการสังเกตของทีมข่าวพบว่า บริเวณนั้นเป็นที่ค่อนข้างลับตาชาวบ้าน และต้องเดินผ่านไร่ข้าวโพดเข้าไปอีก โดยในจุดที่ "น้องฟ้า" กล่าวอ้าง "นายกานิเทศ" ยังชี้ให้ทีมข่าวดู เศษก้นบุหรี่ ขวดน้ำดื่ม และผ้าถุงซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของใคร ตกอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุอีกด้วย ซึ่ง "นายกานิเทศ" เชื่อว่า นี่อาจจะเป็นหลักฐานที่ยังคงหลงเหลืออยู่ว่า มีคนพาภรรยาของตัวมาทำร้ายรุมโทรมจริง


นายกานิเทศ บอกกับทีมข่าวต่อว่า เรื่องทั้งหมดตนเองมั่นใจว่า เป็นเรื่องจริง ถึงแม้ตนเองจะไม่เคยเห็นภาพจัง ๆ ขณะภรรยาตนเองถูกรุมโทรม แต่ที่ผ่านมายืนยันว่า เคยเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุ ขี่รถหรือเดินวนเวียนแถวบ้านของภรรยาตนเองจริง ๆ และตนเองไม่ได้สร้างเรื่อง แจ้งความเท็จ หรือ อยากให้ใครเป็นแพะรับบาปในคดี ชาวบ้าน 15 คนที่ถูกศาลออกหมายจับ ภรรยาของตนเองเป็นคนชี้รูป ที่ตำรวจให้ดูจากทะเบียนราษฎร์เองทั้งหมด ซึ่งภรรยาตนเองมั่นใจมาก

ส่วนเรื่องที่ตนเองมีภรรยาอายุ เพียง 14 ปี ยืนยัน ได้นำแหวนทอง 2 วง รวม 2 สลึง และเงินอีก 8,000 บาท นำไปขอกับแม่ของ "น้องฟ้า" เพื่อขอเป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง ตนรัก "น้องฟ้า" มาก จึงอยากปกป้องดูแล เพราะมารู้ทีหลังว่า น้องเคยถูกชาวบ้าน 11 รุมโทรม ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกแล้ว จึงอาสาดูแลแทนแม่

ยืนยันจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ยอมรับว่า หลังที่แจ้งความเป็นคดี ก็กลัวความไม่ปลอดภัยกับตนเอง เพราะไม่รู้ว่า ผู้ก่อเหตุ 15 คน จะมีอิทธิพลในหมู่บ้านขนาดไหน ซึ่งตนเองก็อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับน้องฟ้าด้วย

 

ด้าน นางนิด ธรรมรังศรี อายุ 61 ปี แม่น้องฟ้า เล่าว่า มั่นใจลูกสาวถูกรุมโทรม ไม่ได้แจ้งความเท็จ ทำชาวบ้าน 15 คน เป็นแพะในคดี หรือแจ้งความเท็จกับตำรวจ หรือตั้งใจหลอกใคร ที่ผ่านมาลูกสาวเป็นเด็กดี เรียนเก่ง ลูกสาวไม่น่าจะโกหก และมีอยู่ครั้งหนึ่ง ลูกสาวเคยนอนอยู่ภายในบ้าน บ่นว่าปวดท้อง ตาเหลือง และจู่ ๆ  ก็มีเลือดออกบริเวณอวัยวะเพศมาก ซึ่งตนเองมองดูแล้วไม่น่าจะใช่ประจำเดือน แต่น่าจะเกิดจากการรุมโทรมอย่างหนัก

แต่ขณะนั้นลูกสาวไม่ยอมรับ กระทั่ง 23 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่ลูกสาวถูก ชาย 4 คนรุมโทรมภายในสวนยางพารา โดย "นายกานิเทศ" สามีของลูกสาว เอาเรื่องมาบอก และพยายามช่วยกันเค้นถามลูกสาว  จึงยอมเล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมด

ตนจึงได้นำเรื่องไปร้องกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนจะลูกสาวเข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.นาด้วง และ สภ.เชียงกลม ว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่ ปี 63 ลูกสาวเคยถูกชาวบ้านรายใดทำร้ายบ้าง โดยตำรวจได้นำรูปมาให้ลูกสาวชี้ ซึ่งลูกสาวก็ชี้หน้าได้หมด ถึงแม้พยานหลักฐานจะมีแค่การชี้รูปของลูกสาว แต่ตนเองก็เชื่อว่า ลูกไม่โกหก และลูกถูกทำร้ายจริง ๆ

ส่วนเรื่องที่ "นายกานิเทศ" สามีของลูกสาว ที่อายุ 50 ปี ห่างจากลูกสาวที่อายุเพียง 14 ปี ดูจะไม่เหมาะสมหรือไม่ เพราะอาจจะเข้าข่ายพรากผู้เยาว์หรือไม่ ตนเองมองว่า ไม่น่าจะผิด เพราะตนเองเป็นแม่แท้ ๆ และยินยอมยกลูกสาว ให้ "นายกานิเทศ" ดูแลเอง ไม่ได้ถูกใครบังคับ เพราะอยากให้ "นายกานิเทศ" ปกป้องลูกสาวแทนตนเอง ตนเองจึงคิดว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
 

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับ เด็กหญิงแก้ว (นามสมมุติ) เพื่อนสนิทของน้องฟ้า ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนตกใจมาก ที่พี่ชายของตน ก็เป็น 1 ใน 11 ผู้ถูกกล่าวหา ไปก่อเหตุรุมโทรม เพราะพี่ชายของตนแทบจะไม่รู้จัก หรือเคยยุ่งเกี่ยวด้วยซ้ำ

ที่ผ่านมา ตนเคยเป็นเพื่อนสนิทของ "น้องฟ้า" รู้จักกันตั้งแต่อนุบาล ยันจบ ป.6 ช่วง โดยก่อนจบ ป.6 รู้สึกว่า น้องฟ้า ร่ำรวยผิดปกติ มีเงินหลายพันบาทต่อวัน และได้นำเงินมาเลี้ยงหมูกระทะ ของตนเองไม่ต่ำกว่า 14 ครั้ง แต่ละครั้ง ก็ตกครั้งละไม่ต่ำกว่า 200 บาท ตนพยายามถามเอาเงินมาจากไหน แต่บอกว่า “แม่ให้มา”

ซึ่งตนว่า ไม่น่าจะใช่ เพราะ ครอบครัว "น้องฟ้า" ค่อนข้างยากจน แถมแม่ยังรับจ้างทำไร่ทำสวน ไปเอาเงินมาจากไหนมากมาย และที่ผ่านมา "น้องฟ้า" เป็นเด็กร่าเริง และชอบเที่ยว ขนาดตั้งท้อง ยังไปเที่ยวงานวัดกับสามีวัย 50 ปี ไม่เห็นเศร้าหรือเสียใจอะไร เลยไม่คิดว่า ที่ "น้องฟ้า" บอกว่า ถูกชาวบ้านหลายสิบคนรุมโทรม น่าจะเป็นเรื่องโกหกมากกว่า