สุดสะเทือนใจ น้องชายทาสยาบ้าคลั่ง ปลิดชีพพี่ชายพิการ

11 กุมภาพันธ์ 2566 เหตุสะเทือนใจ น้องชายฆ่าพี่ชายพิการ รายนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ร.ต.อ.บรรจบ จ้อยศรีเกตุ ร้อยเวร สภ.วิเศษชัยชาญ ได้รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต ภายในบริเวณบ้านพื้นที่ ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังได้รับแจ้ง รายงานให้ พ.ต.อ.นักรบ ทองประทุม ผกก.สภ.วิเศษชัยชาญ ได้รับทราบ พร้อมไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

บ้านเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวใต้ถุนสูง บนระเบียงบ้านพบร่าง นายมนัส แก้วอร่าม อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านนอนเสียชีวิตอยู่ใกล้ประตูบ้าน สภาพศพใบหน้าและศีรษะมีร่องรอยถูกกระแทกนับสิบแห่ง ด้านล่างตัวบ้านพบมีดขอยาวกว่า 1 เมตรวางอยู่ใกล้เปล และมีรองเท้าตกอยู่ 1 ข้าว เจ้าหน้าที่จึงประสานแพทย์เวรจากโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ 

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสุเทพ แก้วอร่าม อายุ 48 ปี น้องชายของนายมนัส ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้ขณะที่เดินอยู่ภายในบ้านก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.วิเศษชัยชาญ

นางณิรภา อินสว่าง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อยู่บ้านติดกัน บอกว่า ปกติคู่นี้ก็จะทะเลาะกันเป็นประจำ คนพี่ป่วยเป็นอัมพาต ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นน้องชาย หากเสพยา หรือกินเหล้าก็ชอบทุบตีกันเป็นประจำ ไม่เว้นแม้กระทั่งสุนัขภายในบ้านก็ถูกตีตายจนหมด โดยทุกครั้งนายมนัส จะตะโกนเรียกให้ช่วย ตนเองก็ขู่ว่าจะแจ้งตำรวจจับ ก็เงียบไป แต่คราวนี้ทำไมไม่เรียกให้ช่วยก็ไม่รู้

เช่นเดียวกับนายชาลี เกียรติไพศาล รองนายก อบต. หัวตะพาน บอกว่า ปกติก็จะคอยดูแลอยู่ แต่ช่วงหลังก็จะแยกนายมนัส ไปนอนที่วัด เพราะมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง และน้องชายมีพฤติกรรมก้าวร้าว แต่ไม่รู้ว่านายมนัส กลับมาอยู่ที่บ้านตั้งแต่เมื่อใด

กระทั่งเมื่อเช้าที่ผ่านมามีคนไปแจ้งว่ามีการฆ่ากันจึงพาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่เกิดเหตุโดยเมื่อมาถึงนายสุเทพ ยืนโวยวายและถือมีดอยู่ด้านล่าง จึงช่วยกันแย่งมีด ก่อนควบคุมตัวไว้และขึ้นไปดูด้านบนก็พบว่านายมนัส เสียชีวิตแล้ว

ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายสุเทพ ถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ โดยนายสุเทพ โวยวายตลอดเวลา ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ ต้องพยายามควบคุมตัวเอาไว้ เพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนที่จะนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีต่อไป