svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

สลด! ตา-ยาย ทารุณหลาน แถมนำมาปล่อยทิ้งให้ตามหาป้าเองตอนตี 4

23 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พบเด็กหญิง 12 ปี กอดสูติบัตร ถูกทิ้งริมถนนตามเนื้อตัวมีรอยฟกช้ำ บอกยายกับตาพามา โชคดีพลเมืองดีช่วยตามหาจนพบป้า

23 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งมีเด็กหญิงอายุ 12 ปี ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ ที่ริมถนนในหมู่บ้านตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู และตามเนื้อตัวของเด็กหญิง มีรอยฟกช้ำคล้ายกับถูกทำร้ายร่างกาย

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบพบ นางสาวสุวรรณา สมมาจันทร์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านหนองด่าน ตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีเด็กหญิงเอ อายุ 12 ปี ( นามสมมติ) หลานสาว นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งยังอยู่ในอาการหวาดผวา ตามเนื้อตัวมีรอยเขียวฟกช้ำที่บริเวณ คอ,ขา ,แขน,ใบหู และที่นิ้วมือ 

นางสาวสุวรรณา ป้าของเด็ก เปิดเผยว่า ตนเองมีน้องชายชื่อว่า นายสุเมธ (สงวนนามสกุล) ได้แต่งงานกับนางนิ่ม (นามสมมติ) และมีบุตรด้วยกัน 1 คน คือเด็กหญิงเอ หลังจากอยู่กินกันได้ระยะหนึ่งทั้งคู่ได้แยกทางกัน ขณะนั้นเด็กหญิงเอ อายุประมาณ 4 ขวบ โดยมีนางบัวเรียน ซึ่งเป็นย่า ได้รับเลี้ยงดู และให้เข้าโรงเรียนอยู่ที่ตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู พออายุ 8 ขวบ นางนิ่ม ผู้เป็นแม่ซึ่งไปได้สามีใหม่ ได้มารับเด็กหญิงเอ โดยแจ้งว่าจะพาไปอยู่ด้วยที่จังหวัดชลบุรี ส่วนนายสุเมธ พ่อของเด็กหญิงเอ ไปทำงานที่กรุงเทพฯ

ตั้งแต่นั้นมา ตนเองก็ไม่เห็นหน้าหลานอีกเลย จนในช่วงเช้ามืดประมาณตี 4 ผู้ใหญ่บ้านได้นำหลานมาส่ง ตนเองก็ตกใจจึงถามเด็กหญิงเอว่า มาได้อย่างไร เด็กหญิงเอ ได้บอกว่า ตากับยาย ขับรถพาตนมาทิ้งไว้ที่ริมถนน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนเพราะมืดมาก

โดยหลาน ได้เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ไปอยู่กับแม่ที่จังหวัดชลบุรี ก็ถูกยาย และพ่อเลี้ยงทุบตีอยู่ตลอด โดยเด็กหญิงเอ ได้ชี้ที่บริเวณลำคอเป็นรอยช้ำๆและบอกว่ายายเป็นคนบีบ และที่บริเวณขาทั้ง 2 ข้าง โดนพ่อเลี้ยงใช้ไม้หน้า 3 ตี ส่วนบริเวณใบหูโดนยายดึงและหยิก จนเป็นแผลยังมีรอยเลือดซึมอยู่ และที่นิ้วมือบริเวณเล็บถูกยายใช้ไม้แขวนเสื้อตี จนช้ำเลือดช้ำหนอง

หลานยังบอกด้วยว่า อยู่ที่บ้านช่วยทำงานบ้าน ล้างจานกวาดบ้านถูบ้าน แต่ถ้าเกิดทำอะไรไม่พอใจ จะโดนผู้เป็นยายและพ่อเลี้ยงทุบตี และให้นอนหนาวอยู่ที่หน้าบ้าน ไม่ให้เข้ามานอนในบ้าน ซึ่งตนเองได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นากลาง และพาหลานไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ไว้แล้ว และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ จุดที่เด็กหญิงเอถูกปล่อยทิ้งไว้ พบว่า เป็นหน้าบ้านของคุณอ๋อย พลเมืองดี ที่พบเด็กหญิงเอ เป็นคนแรกได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 22 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 04.00 น.ขณะที่ตนเองกำลังจะไปตลาด ได้ยินเสียงผู้หญิงกับผู้ชายเถียงกันอยู่ภายในรถเก๋งสีขาว จับใจความได้ว่า “จำไม่ได้เหรอว่า บ้านป้าอยู่ตรงไหน ทำไมโง่จัง” ตนเองคิดว่าเป็นการพูดคุยกันธรรมดา

หลังจากนั้นรถเก๋งคันสีขาวก็ได้ขับออกไป แต่ตนเองได้สังเกตเห็นว่า มีคนเดินไปเดินมาอยู่ที่ถนนหน้าบ้าน ซึ่งยังมืดอยู่ จึงได้เดินออกไป พบเด็กหญิงเอยืนตัวสั่นด้วยความหนาว เพราะใส่เสื้อแขนสั้น และมีถุงกระสอบปุ๋ยใส่เสื้อผ้ากองอยู่ที่พื้น ยืนกอดสูติบัตรแน่นอยู่ที่หน้าอก ตนจึงพาเข้ามาพักในบ้านและหาเสื้อกันหนาวให้ใส่ และสอบถามเด็กหญิงเอ ได้ความว่า มากับตาและยาย และยายบอกว่าให้รออยู่ที่นี่ พร้อมกับให้เงินไว้ 200 บาท แล้วยายจะส่งเงินมาให้ใช้ คุณอ๋อยจึงได้ดูที่ใบสูติบัตร จึงเห็นชื่อพ่อของเด็ก และบ้านเลขที่ จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้าน มารับตัวเด็กหญิงเอ ไปส่งที่บ้านญาติซึ่งเป็นบ้านป้า คือนางสาวสุวรรณา สมมาจันทร์

ด้าน พ.ต.อ.จักรพรรดิ วิจิตรไวทยะ ผกก.สภ.นากลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบเรื่องแล้ว และได้นัดญาติของเด็กหญิงเอ มาให้ปากคำเพิ่มเติม ในวันนี้(23 ม.ค.) และเนื่องจากผู้เสียหายเป็นเยาวชน ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และถูกทำร้ายร่างกายมาจากจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ จึงต้องมีทีมสหวิชาชีพ ในการร่วมสอบสวน โดยตนรับปากว่าจะทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

logoline