ความคืบหน้ากรณี นายมะนิช (ขอสงวนนามสกุล) หนุ่มใหญ่ชาวร้อยเอ็ด เผชิญทุกขลาภ หลังถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ได้เงินมา 6 ล้าน และได้โอนเงินรางวัลเข้าบัญชีนางอังคนารัตน์ (สงวนนามสกุุล) อายุ 45 ปี ภรรยาที่อยู่กินมา 26 ปี แต่สุดท้ายถูกเมียรักเชิดเงินหนีกับชายชู้ นั้น
20 พฤศจิกายน 2565 เมื่อเวลา 09.30 น. นางอังคนารัตน์ ได้เดินทางกลับมาที่บ้าน ต.ธวัชบุรี อ.ธวัชบุรี ร้อยเอ็ด ในช่วงเช้า เพื่อมาพบกับนายมะนิช (สามี) หลังทราบว่าสามีแจ้งความจับ เพื่อตกลงเจรจากัน
จากนั้นทั้งคู่พร้อมลูก 2 คน ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมศักดิ์ เกตุพิบูลย์ สารวัตร(สอบสวน)สภ.ธวัชบุรี เพื่อทำบันทึกถ้อยคำไว้เป็นหลักฐาน นางอังคนารัตน์ ระบุว่า จะนำเงินมาคืน 3.1 ล้านบาท ที่ยังเหลือในบัญชี มาคืนให้กับนายมะนิช หลังจากคืนเงินได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวนให้บันทึกปากคำ "ขอแยกทางกับสามี" และไม่ให้สามีอยู่ที่บ้านอย่างเด็ดขาด และให้ออกจากบ้านภายใน 3 วัน มิฉะนั้นจะแจ้งความฐานบุกรุก
สำหรับเงิน 3.1 ล้าน ได้แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ให้สามี และ ลูก 2 คน (เพราะคนโตเรียนจบมีครอบครัวแล้ว ได้เงินไปแล้ว 2 แสนไปแล้ว) คนที่จะได้รับใหม่ คือ ลูกสาวคนเล็ก อายุ 11 ปี 1 ล้านบาท ลูกชายคนกลาง 5 แสนบาท และให้สามี 1.6 ล้านบาท รวมเป็น 3.1 ล้านบาท ส่วนทองรูปพรรณ สร้อยคอ แหวน หนัก 2 บาท ที่ตนซื้อให้สามีเก็บไว้ ขอทวงคืน
ขณะเดียวกันการมอบเงินให้ลูกสาว ตกลงกันภายในข้อกำหนดว่าจะให้เบิกเงินมาใช้ได้เมื่อลูกสาวอายุ ถึง 20 ปีบริบูรณ์ ส่วนลูกชายที่เขาเรียน ม.6 ก็กำหนดว่า ให้สามารถเบิกเงินจำนวนที่แม่มอบไว้ให้ได้ เมื่ออายุถึง 25 ปี เท่านั้น โดยจะโอนเงินให้ทั้ง 3 คน ภายในวันจันทร์ นี้
นายมะนิช ยินยอมตามข้อตกลงที่ให้ออกจากบ้าน เพื่อให้ลูกได้อยู่กับแม่ และบอกว่าพอใจ ที่ได้เงินกลับมาให้ลูกเรียนหนังสือ เงินส่วนที่ตนเองได้ก็จะเอาไปลงทุนส่วนตัว และจะลงไปหางานทำที่กทม.เพื่อหาอาชีพเลี้ยงตนเอง และยืนยันว่าทุกอย่างทำด้วยความรักเมีย รักครอบครัว ส่วนการจะมีการคืนดีกันหรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต หากเมียอภัยให้ ก็จะขอกลับมา
ด้านนางอังคนารัตน์ กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวสามีแจ้งความจับก็เลยกลับมาเคลียร์ปัญหา ยืนยันว่าไม่ได้ไปกับผู้ชาย คนที่มาที่บ้านเป็นแค่คนรู้จักกัน และไม่มีเรื่องชู้สาว ทั้งนี้ตนไม่พอใจสามีชอบดุด่า และก็โดนลูกชายหาเรื่องใส่ จึงหนีไปทำใจ และตั้งใจจะหนีไปเข้าวัดไปเรื่อยเพื่อเอาเงินที่ถูกรางวัลไปทำบุญ จะไปนุ่งขาว ห่มขาว สเดาะเคราะห์ แต่กลับถูกใส่ร้ายและแจ้งจับ หลังจากนี้ตนจะอยู่ที่บ้านกับลูก และ จ.ส.อ.เทิดศักดิ์ อดีตทหารนอกราชการ ที่ตนเองเป็นคนคอยดูแล และยืนยันว่าจะไม่มีชายอื่นอย่างเด็ดขาด
หลังจากการบันทึกลงนามข้อตกลงคืนเงินกันแล้ว ทั้งคู่ยังดราม่าจับมือกันว่า ยังคงคบกันเป็นเพื่อนได้ ไม่ได้โกรธแค้น ทะเลาะกัน ส่วนการที่อาจจะกลับมาคืนดีกันใหม่หรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องอนาคต
ด้าน พ.ต.ท.สมศักดิ์ กล่าวว่า ดีใจที่เรื่องจบลงด้วยดี แต่นายมะนิช ยังไม่มีการถอนแจ้งความ จนกว่าจะมีการเปิดปัญชี โอนเงินทั้งหมดตามที่ตกลงกันแล้ว จึงจะมีการบันทึกถอนแจ้งความในภายหลัง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหา ที่อาจจะไม่ทำตามสัญญา ซึ่งหากทุกอย่างเรียบร้อยก็จะให้บันทึกถอนแจ้งความต่อไป
ขณะที่ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตประเด็นที่นางอังคณารัตน์ อ้างว่ายังเหลือเงิน 3.1 ล้านบาท แต่ไม่ได้นำสมุดบัญชีมาแสดงให้เห็นยอดเงินดังกล่าวด้วย ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าซ่อนไว้ และไม่ได้นำมาด้วย ทำให้ยังไม่มีใครทราบว่าเงินเหลืออยู่จริงหรือไม่ ซึ่งคงต้องรอวันที่ทุกคนเปิดบัญชีใหม่ ว่าจะมีการโอนเงินให้ตามสัญญาหรือไม่ต่อไป
ข่าว : ธวัชชัย กฤตยาวรกุล จ.ร้อยเอ็ด