หลังการรวบตัว นายคมสัน พันธุ์พรหม อายุ 32 ปี ชาวบ้านบ้านเหล่าสวนกล้วย ต.โนนทองอินทร์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี เกิดอาการคลุ้มคลั่ง จุดไฟเผาตู้ควบคุมเสารับส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ที่ตั้งอยู่บริเวณหลังบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 6 บ้านสวนกล้วย โดยระหว่างที่ นายไสว อาจหาญ อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านนำถังน้ำไปดับ กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อนายคมสัน ถือมีดสปาต้า สับเข้าที่บริเวณท้ายทอยของนายไสว โดยที่ไม่ได้ทันตั้งตัว เป็นเหตุให้ผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ด่วน! หนุ่มคลั่ง มีดฟันผู้ใหญ่บ้านดับ ขู่ตำรวจปิดล้อม "พร้อมฆ่าทุกคน"
ล่าสุด วันนี้ 7 พ.ย.65 เวลา 09:30 ตำรจ สภ.กู่แก้ว ควบคุมตัวนายคมสันต์ พันธุ์พรม ผู้ก่อเหตุุุุุุุไปฝากขังที่ศาล โดยมีญาติทั้ง2 ฝ่าย เดินทางที่ สภ.กู่แก้ว ทั้งญาติของ ผญบ.ที่เสียชีวิต และญาติของผู้ก่อเหตุ ซึ่งฝั่งญาติของนายคมสันต์ ผู้ก่อเหตุ เตรียมนำเงิน 2,000 บาทและข้าวเหนียวหมูปิ้งมามอบให้นายคมสันต์ พร้อมกับได้มีการพูดคุยกัน นายคมสันต์ได้ฝากให้ญาติดูแลบ้าน ดูแลแม่ที่ป่วย และไก่ชนที่่บ้านด้วย
โดยญาติของนายคมสันต์เชื่อว่า หลานไม่ใช่คนที่จิตใจอัมหิต เพราะตั้งแต่เด็กเป็นคนนิสัยดี แต่ยอมรับว่าสาเหตุอาจมาจากการเสพยาเสพติด จึงทำให้ก่อเหตุดังกล่าว อยากให้ญาติผู้เสียชีวิตอโหสิกรรมให้ด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำตัวผู้ก่อเหตุขึ้นรถเพื่อนำไปฝากขังได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น ญาติของผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิต มีทั้งลูกชาย น้าๆ หลานๆ กรูเข้ามาเพื่อดูหน้าผู้ต้องหาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำตัวไปฝากขัง ขณะนั้นเองห็ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งกระโดด ใช้เท้าซ้ายเตะเข้าที่ด้านหลังของนายคมสันต์
และอีกหลายคนกรูเข้ามาจะทำร้ายนายคมสันต์ด้วย เพราะโกรธแค้นที่นายคมสันต์ ฆ่า ผญบ. ขณะเดียวกัน ตำรวจต้องกันญาติของผู้เสียชีวิตอย่างชุลมุน แต่ก็ยังมีการด่าทอว่า “มึงฆ่าพ่อกูทำไม มึงไม่มีข้าวกินก็ไปขอข้าวพ่อกูกิน” รวมไปถึง บางคนด่าว่า “มึงเหี้ยมผิดมนุษย์”
ขณะเดียวกันก็มีมีนางละไม หนางสองห้อง อายุ 40 ปี ลูกบ้านของผู้เสียชีวิต มาร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวให้ ผญบ. ว่าจากกรณีที่มีข่าวว่า ผญบ. เป็นหนี้นายคมสันต์ 40,000 บาท ไม่เป็นความจริง เรื่องของเรื่อง คือตนเองซื้อที่ดินจากนายคมสันต์ ประมาณ 1 ไร่ ไร่ละ2 แสนบาท และตกลงซื้อขายมัดจำก่อน 40,000 บาท โดยให้นายสมัย ผญบ.ที่เสียชีวิต เซ็นต์ชื่อเป็นพยาน โดยไดซื้อขายกันเมืื่อเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา หลังจาก ผญบ. เซ็นต์เป็นพยานเสร็จเรียบร้อย
จากนั้นนายคมสันต์ก็มีการไปขอเงินจากนางละไม ครั้งละ 20,000 บาท บ้าง10,000 บาทบ้าง รวมเป็นเงิน 95,000 บาท ทั้งที่ยังไม่ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน นายคมสันต์ก็ได้ก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้นก่อน จึงมาขอความเป็นธรรมให้ ผญบ. ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นหนี้สินกับนายคมสันต์แต่อย่างใด ผญบ. เป็นคนดี
ด้าน พ.ต.อ.พีระวุฒิ สุวรรณประสิทธิ์ ผกก.สภ.กู่แก้วได้บอกกับญาติของผู้เสียชีวิตว่า นายคมสันต์ได้รับโทษหนักแน่นอน 3 คดีถึงประหารชีวิต คือ ฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ ,พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร และเสพยาเสพติด