จากกรณี ที่วันนี้ (6 ต.ค.) ได้เกิดเหตุสลด ที่มีคนร้ายบุกเข้าไปกราดยิงและใช้มีด ทำร้ายครูและนักเรียน ภายในห้องเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู จนมีผู้เสียชีวิต 36 ราย เป็น ผู้ใหญ่ 12 ราย เด็ก 22 ราย และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 คนอาการสาหัส 8 คน โดยผู้ก่อเหตุ คือ ส.ต.ท.ปัญญา คำราบ อดีตตำรวจ สภ.นาวัง จังหวัดหนองบัวลำภู ที่หลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีไป ก่อนจะพบว่า ได้เผารถและใช้ปืนสั้น ปิดชีพของตัวเอง รวมถึงภรรยาและลูก ภายในบ้านพักไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ (อ่านข่าว)
กรณีดังกล่าว แพทย์หญิงอัมพร เบญพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ระบุว่า ในพื้นที่ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่เขตศูนย์สุขภาพจิตที่ 8 ที่ครอบคลุมพื้นที่ของ จ.หนองบัวลำภู และทีมโรงพยาบาลจิตเวชเฉพาะทาง จ.เลย ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยจะทำงานรวมกันกับ สสจ.หนองบัวลำภู และทีมโรงพยาบาลหนองบัวลำภู ทั้งหมดจะรีบลงพื้นที่ ไปดูแลประชาชนที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ความรุนแรง เช่น เด็ก ครูพี่เลี้ยง และชุมชนรอบ ๆ รวมไปถึงครอบครับ ที่ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียคนสำคัญไป ซึ่งกลุ่มเหล่านี้กำลังอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่
โดยหลักการคนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่มีความรุนแรง และการเฉียดตาย ต้องทำให้กลุ่มเหล่านี้รู้สึกถึงความมั่นใจและปลอดภัยของตนเองก่อนเพราะทุกคนต้องตกใจมาก
แพทย์หญิงอัมพร กล่าวว่า วิธีการดูแลเบื้องต้นคือ ดูแลสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบ รับฟังความรู้สึก ต้องระมังระวังในการซักถาม รวมถึงปกป้องคนที่จะคอยมาซักถามเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำบาดแผลทางใจให้หนักมากกว่าเดิม ซึ่งหลักการของกรมสุขภาพจิตคือ เซฟตี้เฟริ์ส ทางร่างกายและจิตใจ
ส่วนสภาพจิตใจที่น่าห่วงของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ พญ.อัมพร ระบุว่า กลุ่มเด็กที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่รุนแรง ถือเป็นความเจ็บปวดรวมกันของทุกฝ่ายได้ง่ายมาก ซึ่งที่ต้องพยามยามดูแล คือ ความเจ็บปวดของคนที่เห็นเหตุการณ์ และมีการส่งภาพ หรือ คลิปของเหตุการณ์ที่สะท้อนความรุนแรงอย่างชัดเจนกระจายออกไปตามสื่อต่าง ๆ
โดยภาพที่ทำร้ายจิตใจคนในเหตุการณ์ จะกระจายไปทำร้ายจิตใจของผู้อื่นเป็นจำนวนมากหรือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จนเป็นแผลทางใจ และอาจจะเป็นตัวอย่าง ชี้นำความรุนแรงให้กับคนที่มีความโกรธ ความทุกข์อยู่ในใจ จนทำให้สังคมเกิดความชินกับความก้าวร้าวแบบนี้
จึงอยากขอร้องทุกฝ่ายที่จะนำเสนอข้อมูลไปในวงกว้าง สื่อสารด้วยความระมัดระวัง การบอกเล่าข่าวสารสามารถทำได้ แต่การเติมสีสัน หรือ แพร่ภาพที่ขาดความเหมาะสมเป็นสิ่งที่ต้องระวังมาก ๆ และต้องให้เกียรติผู้สูญเสียทั้งหลายด้วย
เมื่อถามว่า ผู้ก่อเหตุยิงกราด จะมีสภาวะทางจิตหรือไม่ พญ.อัมพร ระบุว่า ถ้าคนมีสภาวะจิตใจปกติคงจะไม่สร้างความรุนแรง หรือทำร้ายใคร ซึ่งตัวผู้ก่อเหตุรายนี้น่าจะมีปัญหาทางสภาพจิตใจในระดับหนึ่ง ในเรื่องของความโกรธ และความเครียด ความทุกข์ที่ตัดสินใจไม่ดีเลยจากปัญหาทางด้านอารมณ์ ส่วนจะเป็นโรคทางจิตเวชหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะคนที่โกรธมาก และขาดความยับยั้งชั่งใจที่ไม่ดี ตัดสินใจไม่ดี ถึงแม้จะไม่เจ็บป่วยจิตเวชไม่เป็นโรคจิตเวช อาจจะลงมือทำแบบนี้ได้