เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
26 กันยายน 2565 ความคืบหน้ากรณี คันกั้นน้ำไดส์ 5 (Dike 5) ที่ได้สร้างเป็นกึ่งถนนเชื่อมโยงระหว่างอำเภอราษีไศล กับ อำเภอศิลาลาด ได้ถูกกระแสน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำชี ไหลเข้าสู่ลำน้ำเสียวในเขตอำเภอศิลาลาด ก่อนที่จะไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนราษีไศล แต่ด้วยกระแสน้ำที่มีปริมาณที่มากและไหลแรง ทำให้พนังกั้นน้ำ คันไดส์ 5 ที่ทำเป็นกึ่งถนนขาดเป็นช่องขนาดใหญ่ ราว 30 เมตร
ล่าสุด นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ตรวจติดตามเหตุพนังกั้นน้ำขาด บนเส้นทางแยกจากถนนสายราษีไศล-โพนทราย ไปยังบ้านดงเค็ง ตำบลหนองบัวดง อำเภอศิลาลาด ทำให้น้ำทะลักจากลำน้ำเสียวเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรมของราษฎรในพื้นที่บ้านหนองแห้ว ตำบลด่าน อำเภอราศีไศล
มวลน้ำดังกล่าวได้ไหลผ่านท่อลอดข้ามไปยังพื้นที่เกษตรกรรมฝั่งทิศใต้ของถนนเส้น ทางหลวง 2086 (ถนนเชื่อมระหว่างอำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ - อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าล้ม 3 จุดซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกำลังเร่งแก้ไข
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลกลางบูรณาการร่วมกับอำเภอ อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนทุกภาคส่วนเร่งรัดดำเนินการป้องกันการไหลทะลักของน้ำ รวมทั้งซ่อมแซมคันไดส์5 กึ่งถนน ในส่วนที่เสียหายให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วเพื่อป้องกันความเสียหายในพื้นที่เกษตรกรรม
อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรเส้นทางดังกล่าว โดยได้ดำเนินการซ่อมแซมตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้จนถึงกลางดึกเมื่อคืนจึงแล้วเสร็จสามารถใช้สัญจรผ่านได้ ชั่วคราว ส่วนการซ่อมแซมใหญ่และถาวรจะเกิดขึ้นหลังจากน้ำลดลงอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25ก.ย.ที่ผ่านมา กระแสน้ำจากลำน้ำเสียว ที่ไหลมาจากแม่น้ำชี จากจังหวัดยโสธร ไหลผ่านอำเภอศิลาลาด กระแสน้ำที่รุนแรงได้ซัดถนนลาดยาง เส้นราษีไศล ที่ไปยังอำเภอศิลาลาด ที่กรมชลประทานสร้างเป็นคันกั้นน้ำไม่ไหลท่วมพื้นที่ตำบลด่าน และตำบลใกล้เคียง ถูกกระแสน้ำไหลพัดจนทำให้ถนนขาด ยาวกว่า 30 เมตร พี่น้องประชาชนที่เคยใช้เส้นทางสัญจรต้องเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่นแทน
ภาพมุมสูงจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มวลน้ำที่ไหลมาจากน้ำลำเสียว มีปริมาณที่มาก และกำลังไหลเข้าสู่แม่น้ำมูล เขื่อนราษีไศล ซึ่งจะส่งผลให้แม่น้ำมูลไหลลงไปสู่แม่น้ำโขงที่จังหวัดอุบลราชธานี ไหลได้ล่าช้าขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีน้ำหนุนขึ้นมาท่วมตัวเมืองศรีสะเกษ ในลำน้ำห้วยสำราญ ระดับน้ำที่วัดได้ที่สะพานขาว จุดวัด M9 ระดับน้ำอยู่ที่ 10.57 เมตรแล้ว นั้นหมายความว่า ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จะถูกน้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง
ทางจังหวัดศรีสะเกษได้แจ้งเตือนประชาชนทุกระยะ พร้อมมีรถยนต์ไปประกาศในชุมชนที่เสี่ยงภัยถูกน้ำท่วม ได้อพยพข้าวของออกมาจากบ้านก่อนน้ำท่วมถึงด้วย
ส่วนอีกแห่งที่กำลังถูกน้ำท่วมหนักมา 5 วันนี้แล้ว ก็คือ ที่หมู่บ้านอะลาง หมู่บ้านโปร่งสามัคคี ตำบลโคกจาน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งนอกจากจะมีฝนตกลงมาตลอดระยะเวลา เกือบ 10 วันแล้ว ยังมีมวลน้ำจำนวนมาก ไหลล้นสปริงเวย์ของอ่างเก็บน้ำที่อยู่แถบชายแดน อันได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยติ๊กชู, อ่างเก็บน้ำห้วยตาจู, อ่างเก็บน้ำห้วยสำราญ และอ่างเก็บนิคมน้ำห้วยคล้า
มวลน้ำก็จะไหลแตกกระจายล้มลำห้วยสำราญ, ลำห้วยวะ และลำห้วยทับทัน ไหลมาลงที่ตัวอำเภอเมือง โดยกำลังไหลผ่านตัวอำเภออุทุมพรพิสัย ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรเป็นจำนวนมาก พร้อมวัดป่าพิมลมังคลาราม บ้านโนนแดง - โนนม่วง ก็ถูกน้ำท่วม ถูกตัดขาดจากญาติโยมที่จะไปวัดด้วย
ขณะนี้กำลังรอความช่วยเหลือจากทุกฝ่ายอยู่ ชาวบ้านได้เพียงการอพยพขึ้นมาพักพิงอยู่ภายในเต้นท์ที่ทางเทศบาลจัดหามาให้บนถนน แต่เมื่อฝนตกก็จะต้องทนหนาว เปียกฝนกัน ทั้งผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ลูกเด็ก เปียกกันทุกวัน ทุกคืน เพราะไม่มีฝาผนังปิดกั้นกันฝนแต่อย่างใด รวมทั้งปศุสัตว์ ฝูงวัว ก็ต้องปล่อยไว้อยู่ริมถนนใกล้ที่พักพิงของคนเช่นกัน
ภาพและข่าวโดย : พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์
สำนักข่าวเนชั่น จังหวัดศรีสะเกษ