คุณวรพงษ์ นาคฉัตรีย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานประชุม TCAC 2023 ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ ยกระดับเป็นวาระระดับโลก โดยที่ผ่านมาเราได้เห็นผลกระทบไม่ว่าจะเป็นอุทกภัยทั่วโลก หรือภาวะ ElNino ที่ก่อให้เกิดปัญหาภัยแล้ง ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางเกษตร ดังนั้นการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในอนาคตจะมีแนวโน้มลดลง โดยก๊าซธรรมชาติจะเป็นพลังงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน และมุ่งสู่พลังงานที่สะอาดมากขึ้น จากบทวิเคราะห์ของ International Energy Agency หรือ IEA หากแต่ละประเทศจะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emissions ภายในปี 2050 การใช้พลังงานทดแทนจะเพิ่มขึ้น 4 เท่า ในขณะที่การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลจะลดลง 50% จากระดับ ปัจจุบัน และจำนวนสัดส่วนของรถ EV บนท้องถนนจะเพิ่มขึ้นเป็น 75% ของรถทั้งหมด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition) ที่เร็วขึ้น และเป็นตัวเร่งให้เกิดนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ปตท. ตระหนักและให้ความสำคัญในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว และพร้อมเป็นกำลังสำคัญนำพาประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตามวิสัยทัศน์ “Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต” มุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจพลังงานอนาคต และธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน สอดรับกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง กระแสของโลกในอนาคต (Megatrend และ Energy Outlook) รวมทั้งปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยกลุ่ม ปตท. ได้กำหนด 3 เป้าหมายที่บรรลุภายในปี 2030 ประกอบด้วย
Business Growth: ปรับพอร์ตการลงทุนธุรกิจพลังงาน โดยมุ่งเน้นธุรกิจคาร์บอนต่ำ
New Growth: เพิ่มสัดส่วนกำไรจากธุรกิจกลุ่ม Future Energy & Beyond ไม่ต่ำกว่า 30% ซึ่งประกอบไปด้วย
Clean Growth: ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทั้งกลุ่มลง 15% ภายในปี 2030 เมื่อเทียบกับปี ค.ศ. 2020
ปตท. ตั้งเป้าบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2050 และกำหนดกลยุทธ์ 3 เร่ง ได้แก่ “เร่งปรับ เร่งเปลี่ยน เร่งปลูก” สอดคล้องตามนโยบายและเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ประกอบด้วย
นอกจากนี้ ปตท. ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้ในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดย สถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท. ได้ยกระดับการให้ความรู้ทางวิชาการ จากท้องทะเล สู่ขุนเขา เข้าสู่เมือง ผ่านการดำเนินงานศูนย์เรียนรู้ที่สำคัญจำนวน 3 ศูนย์ ได้แก่
จากกลยุทธ์การดำเนินงานอย่างยั่งยืน ของกลุ่ม ปตท. สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัว ความมุ่งมั่น และความพร้อมในการพัฒนาธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และพร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำไปด้วยกัน