31 ธันวาคม 2565 ที่ศาลจังหวัดมหาสารคม นายอัครพันธ์ สัปปพันธ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมหาสารคาม ออกสารอวยพรปีใหม่ประชาชน ความว่า "พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคามที่รักทุกท่าน
ในศุภวาระวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ที่มาถึงนี้ ผม และข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมในศาลจังหวัดมหาสารคาม ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่าน ร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล ตลอดจนพระบารมีแห่งสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชทุกพระองค์ โปรดดลบันดาลพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ให้ทรงพระเกษมสำราญ พระบารมี แผ่ไพศาล สถิตปกเกล้าเป็นมิ่งขวัญแก่ประชาชนชาวไทยตราบชั่วกาลนาน
ในรอบปีที่ผ่านมา ศาลจังหวัดมหาสารคามในฐานะหน่วยงาน ของศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจอธิปไตยทางฝ่ายตุลาการที่ใกล้ชิดประชาชนที่สุด ได้ทำหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ผู้มีอรรถคดีเกิดขึ้นในเขตอานาจ ตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม ดังที่เคยปฏิบัติมาโดยตลอด ส่งผลให้ในปี 2565 นับถึงวันที่ 29 ธันวาคม ศาลจังหวัดมหาสารคามซึ่งมีปริมาณคดีเข้าสู่การพิจารณารวม 19,465 คดี แบ่งเป็นคดีค้างจากปีก่อน 3,481 คดี และคดีรับใหม่ 15,984 คดี สามารถพิจารณาพิพากษาคดีเสร็จไปได้ 17,345 คดี คิดเป็นร้อยละ 89.09 ของคดี ที่เข้าสู่การพิจารณาทั้งหมด และไม่มีคดีที่ค้างพิจารณาเกิน 2 ปี นับแต่วันรับฟ้อง ส่วนบรรดาคดีที่ค้างการพิจารณาอยู่ 3120 คดีนั้น เป็นคดีที่เสร็จ การพิจารณาแล้วแต่ยังไม่ถึงวันนัดฟังคำพิพากษา 131 คดี เป็นคดีที่ยังไม่ถึงกำหนดนัดพิจารณานัดแรก 1,046 คดี คงมีคดีที่ค้างระหว่างการพิจารณาโดยแท้ 938 คดี ซึ่งศาลจังหวัดมหาสารคามจะได้เร่งรัดแต่ไม่รวบรัดการพิจารณาคดีดังกล่าวให้แก่คู่ความต่อไป
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีของ ศาลจังหวัดมหาสารคามยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อยู่บ้าง ส่วนในช่วงกลางปีในหลายพื้นที่ ของจังหวัดมหาสารคามก็ประสบกับปัญหาอุทกภัย ส่งผลต่อความเสียหาย ทางเศรษฐกิจ ผลิตผลทางการเกษตร และหนี้ครัวเรือน ศาลจังหวัดมหาสารคาม จึงมิได้มุ่งเน้นไปที่สถิติหรือปริมาณคดีเสร็จยิ่งกว่าปัญหาและผลกระทบ ที่ประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคามได้รับจากสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งยังได้นำมาตรการต่าง ๆ เช่น การลดการเดินทางมาศาลโดยไม่จำเป็นของบุคคลทุกฝ่ายในคดี การลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี การจัดให้มีการไกล่เกลี่ยและประนีประนอมข้อพิพาททั้งก่อนและหลังมีการฟ้อง มาเป็นส่วนหนึ่งในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ซึ่งผลการดำเนินการดังกล่าวเป็นที่ น่าพอใจในระดับหนึ่ง
นับแต่ผมมารับหน้าที่ผู้รับผิดชอบราชการศาลเมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมา พบว่าปัญหาใหญ่ที่ทำให้ศาลจังหวัดมหาสารคามไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนผู้มีอรรถคดีได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากศาลยังสร้างความรับรู้เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ และเสรีภาพ ให้แก่ประชาชนในเขตอำนาจได้ไม่เพียงพอ ประชาชนหลายคนยังคงเกรงกลัวต่อการมาศาล หรืออาจไม่ทราบช่องทางในการติดต่อขอรับข้อมูลข่าวสาร ทำให้เสียสิทธิต่าง ๆ ตามกฎหมายไป ดังนั้นนอกจากการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีและการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของศาลแล้ว ทิศทางในการทำงานในปี 2566 ของศาลจังหวัดมหาสารคามจะเป็นการทำงานในเชิงรุกเพื่อสร้างความรับรู้เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ และเสรีภาพ ให้แก่ประชาชนในทุกพื้นที่ของเขตอำนาจ ทั้งด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย ตลอดจนเครือข่ายทางสังคมที่ศาลได้สร้างขึ้นใหม่ เช่น ส่วนราชการต่าง ๆ ที่ใกล้ชิดประชาชน ชุมชน วัด ศาสนสถาน และกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่ผ่านการอบรมความรู้จากศาล เพื่อไม่ให้ความยุติธรรมทิ้งผู้ที่เข้าถึงเทคโนโลยีไม่ได้ไว้เบื้องหลัง เหยื่ออาชญากรรม ผู้เสียหาย พยานในคดี ผู้ต้องหา จำเลย ตลอดจนคู่ความทุกฝ่ายของศาลจังหวัดมหาสารคาม จะต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายและมีโอกาสในการเข้าถึงความยุติธรรมโดยเสมอ หน้ากัน
ต่อแต่นี้จะต้องไม่มีผู้ที่ไม่มาศาลเพราะไม่รู้ถึงสิทธิต่าง ๆ ของตน แม้การดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้การทำงานของศาลเพิ่มขั้นตอนมากขึ้น ใช้เวลาในการพิจารณาคดีนานขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อตัวเลข สถิติ และปริมาณคดีเสร็จของศาล แต่คงเทียบไม่ได้กับสิทธิตามกฎหมายที่ประชาชนในเขตอานาจศาลจะได้รับเพิ่มขึ้น แม้โดยเนื้อหาของการเป็นคดีความกัน จะทำให้ศาลจังหวัดมหาสารคามไม่อาจเป็นที่พึ่งแรกของประชาชนได้ แต่ศาลจังหวัดมหาสารคาม ขอยืนยันว่า เมื่อประชาชนมาที่ศาลหรือเพียงติดต่อมาที่ศาล ศาลจังหวัดมหาสารคามจะทำหน้าที่ของศาลให้ดีที่สุด
ในโอกาสปีใหม่ 2566 นี้ ผมและข้าราชการฝ่ายตุลาการ ศาลยุติธรรมในศาลจังหวัดมหาสารคามขอส่งความกำลังใจและความปรารถนาดีมายังพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคามทุกท่าน ขออัญเชิญอำนาจ แห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของท่าน ตลอดจนพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้โปรดบันดาลความสุข ความสมปรารถนา และกำลังใจ แด่ทุกท่าน ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง มีกำลังกาย กำลังใจ ที่เข้มแข็ง เพื่อที่เราจะได้ร่วมกันสร้างสรรค์บรรดาสิ่งดีงามให้บังเกิดแก่บ้านเมืองของเราต่อไป สวัสดีปีใหม่ครับ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปี 2566 ศาลจังหวัดมหาสารคาม เตรียมจัดทำโครงการเชิงรุกสร้างความรับรู้เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ และเสรีภาพ ให้แก่ประชาชนในชุมชน วัด มัสยิด โบสถ์ และนักเรียนนักศึกษา ชื่อโครงการ "ชวน-ให้ไปศาล" โดย "ช" หมายถึง ชุมนุม "ว" หมายถึง วัด มัสยิด โบสถ์ "น" หมายถึงนักเรียนนักศึกษา