19 ธันวาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ข่าวว่าจะมี ส.ส.ไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยเพิ่มเติม ว่า ตนยังบอกไม่ได้ว่าจะมากี่คน เพราะจะทราบก็ต่อเมื่อได้ลงนามรับรองเซ็นใบสมัคร พร้อมยอมรับว่ากระแสข่าวการย้ายเข้าของ ส.ส.มาเพิ่มก็เป็นไปได้ พร้อมย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยจะส่งผู้สมัครลงชิงครบทั้ง 400 เขต เพราะต้องการทั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
เมื่อถามว่าจากที่เคยตั้งเป้าเก้าอี้ ส.ส.ไว้ 120 ที่นั่ง จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หลัง ส.ส.ย้ายเข้าพรรคเพิ่ม นายอนุทิน ปฏิเสธว่าใครวางเป้าไว้ที่ 120 ที่นั่ง ใครไปบอกข่าวที่ออกมาก็พูดกันไปอย่างนั้น ได้เท่าไหนก็เท่านั้น พร้อมย้ำว่านี่เป็นเกณฑ์ที่เราตัดสินตัวเองไม่ได้ เราเป็นเพียงผู้นำเสนอ แต่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของพรรคภูมิใจไทย
ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า คนที่ได้เป็น ส.ส.เพราะคะแนนพรรค แต่คนที่ย้ายพรรคคะแนนจะไม่ตามมาด้วยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า การที่ใครจะไปไหน เป็นความสมัครใจของเจ้าตัว ซึ่งที่ผ่านมามีคนออกจากภูมิใจไทยจำนวนมาก รวมถึงสมัยก่อนมีคนออกจากพรรคภูมิใจไทยไปยังพรรคเพื่อไทย ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เราก็ได้แต่อวยพรให้เขาไปดี ก่อนที่จะหยุดคิดไปสักพักหนึ่ง และกล่าวว่าตนคงไม่ไปพูดบั่นทอนกำลังใจ ใครจะไปใครจะมาก็ถือว่าต้องเคารพการตัดสินใจ เพราะทุกคนมีวุฒิภาวะพอสมควร ซึ่งใครจะมาพรรคภูมิใจไทยก็ยินดีต้อนรับ ส่วนคนที่ไปที่ไหนเราก็อวยพรให้เขาไปด้วยดี ขออย่างเดียว ขอให้ไปทำความเจริญให้กับบ้านเมือง อยู่ที่ไหนก็เหมือนกันหมด
เมื่อถามย้ำว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยคือนายอนุทิน ใช่แล้วหรือไม่ โดยนายอนุทิน ถามกลับสื่อมวลชนว่า ยังไม่ชัดอีกหรือ ชัดมา 5 ปีแล้ว หนึ่งเดียวคนนี้แหละครับ หนึ่งเดียวด้วยนะไม่มี 3 คนนะ ถ้าจะไม่ให้ตนเป็นแคนดิเดตพรรคภูมิใจไทย ก็ต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก่อนย้ำว่าผมคิดว่าชัดนะ
ส่วนผลสำรวจโพล ออกมาระบุว่าพรรคภูมิใจไทยมีภาพจำที่โดดเด่นในบรรดาพรรคการเมือง สืบเนื่องจากการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด นายอนุทิน กล่าวว่า การทำการเมืองต้องยึดถือข้อมูลจากทุกด้าน ผลโพลก็ดีถือเป็นกำลังใจ เพราะจากที่ไม่เคยมีโพลเช่นนี้เลยก็เป็นกำลังใจ แต่ไม่ได้ยึดผลโพลทั้งหมด เพราะยังลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่ผลนิด้าโพลออกมาระบุว่า อยากให้นายกรัฐมนตรียุบสภาฯ ภายในเดือนธันวาคมนี้นั้น นายอนุทิน ย้ำว่า เรื่องยุบสภาเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี เราคงไม่ไปก้าวล่วง แต่ก็มีการเตรียมความพร้อม เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตามวาระสภาฯ ก็จบที่ 23 มีนาคม 2566 ซึ่งเวลาที่เหลือจากนี้ ก็จะผลักดันงานที่ค้างคาให้หมด เพราะเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการ ก็จะทำอะไรไม่ได้มาก รวมถึงต้องแบ่งเวลาไปลงพื้นที่ปราศรัย หาเสียง เยี่ยมประชาชนซึ่งเชื่อว่าจะเป็น 3 เดือนที่เร็วมาก
ส่วนแนวโน้มที่ ร่างพ.ร.บกัญชา-กัญชง จะถูกคว่ำ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว สิ่งที่บอกว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุขทำอะไรไม่ได้ ล่าสุดก็มีการจำคุกและปรับไปหลายราย ซึ่งได้รับความร่วมมือที่ดีมากจากกระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะไปไล่ดูถึงการใช้กัญชากัญชงที่ไม่ถูกต้อง
ฉะนั้นหากอยากเห็นความชัดเจนไม่ต้องมานั่งตีความอะไร ก็ขอให้ผ่านกฎหมายกัญชงกัญชา เพราะจะเป็นกฎหมายที่สามารถควบคุมการใช้ที่ผิดประเภท ซึ่งตรงนี้ถ้าคนที่เป็นผู้แทน มีความห่วงใยประชาชนก็ควรจะต้องออกกฎหมายกัญชงกัญชาให้เรียบร้อย แต่ถ้าไม่ออกพรรคภูมิใจไทยหากกลับเข้ามาก็จำเป็นจะต้องเสนออีกครั้งอยู่ดี
ส่วนคาดว่า 21 ธันวาคมนี้จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชง-กัญชา สำเร็จหรือไม่หรือไม่ นายอนุทิน ยอมรับว่าดูแล้วไม่น่าจะเรียบร้อย เพราะมีคนต้องการไม่ให้เรียบร้อย แต่พรรคภูมิใจไทยยืนยันที่จะยังนำเสนออยู่ และกมธ.ก็พร้อมชี้แจง
พร้อมกับระบุว่าคนที่ต้องการขวาง คงกลัวว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้รับคะแนนนิยมเยอะ แต่ก็คงกลัวน้อยลงไปแล้ว เนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นแล้วเปิดรับ 34 ส.ส.ย้ายเข้าพรรคว่าพรรคภูมิใจไทยมีคะแนนนิยม และความเชื่อมั่นขนาดไหน พร้อมกับระบุว่า ขณะนี้ก็ยังมีเวลาคิดใหม่ทัน ถ้าคิดเพื่อประชาชน ที่แล้วก็แล้วไป ยืนยันว่าภูมิใจไทยไม่มีการดึง ส.ส.เข้าพรรค แต่ ส.ส.มีแต่เดินเข้าพรรคเอง