6 ธันวาคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยมีการประกาศนโยบาย ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท และจบปริญญาตรี เงินเดือน 25,000 บาท ว่า ต้องไปดูว่าทำได้จริงหรือไม่ หลายเรื่องมีการเปิดเผยมาตลอด จะทำนู่นทำนี่ไม่ง่ายนักหรอก
ขณะนี้รัฐบาลทำโครงสร้างต่างๆ มากมาย เพื่อไม่ให้มีปัญหาในอนาคต การจะขึ้นค่าแรงจะต้องเข้าศูนย์ที่ประชุมคณะกรรมการ 3 ฝ่าย นักลงทุนผู้ประกอบการรับไหวหรือไม่ ทุกวันนี้ค่าแรงก็มีความแตกต่างอยู่แล้ว รายงานที่มีฝีมือค่าแรงสูงอยู่แล้ว และบางอาชีพสูงกว่า 600 บาท และรัฐบาลมีการพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อตอบสนองแรงงานยุคใหม่ที่ทำงานกับเครื่องจักรและกิจการที่มีรายได้สูง
ซึ่งค่าแรงเฉลี่ยแต่ละจังหวัดไม่เท่ากันอยู่แล้ว ทำให้มีแรงงานที่มีรายได้มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำมากพอสมควร ซึ่งในการประชุมเอเปคก็มีการหารือในเรื่องนี้ ทำอย่างไรจะให้ค่าแรงสูงขึ้น ซึ่งต้องฟังผู้ประกอบการด้วย รวมถึงให้ประชาชนได้ประโยชน์ วันนี้มีการพัฒนาฝีมือแรงงานรุ่นใหม่ เพื่อทำงานทั้งในและต่างประเทศ ต้องพัฒนาฝีมือแรงงานให้มากขึ้น
ก่อนที่จะย้อนถามสื่อมวลชนว่า เงินเดือนจบปริญญาตรี 25,000 บาท จะนำรายได้มาจากที่ใด ถ้ามีเงินก็โอเค เท่าไหร่ก็ได้ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา เพื่อเพิ่ม GDP ให้กับประเทศ ซึ่งงบประมาณแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายประจำ รวมถึงนำมาดูแลกลุ่มเปราะบางทั้งผู้พิการและคนชรา ซึ่งถ้าจะเพิ่มเงินเดือนก็จะต้องหารายได้ พร้อมกับระบุว่าต้องทยอยทำพร้อมจัดเก็บหารายได้จัดเก็บภาษีเข้ารัฐบาล
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จะเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยจะมีการแถลงข่าวในช่วงบ่ายวันนี้ (6 ธ.ค.65) ว่า ยินดีด้วยแล้วกัน และเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงมีปัจจัยการยุบสภาฯหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มี
เมื่อถามย้ำว่าหลังเดินทางกลับจากเบลเยี่ยม นายกรัฐมนตรีจะมีความชัดเจนทางการเมืองหรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ส่งมายังรัฐบาลแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ายังไม่เห็น ก่อนที่จะหันกลับไปถามทีมงานว่ากฎหมายอะไรนะ เมื่อทราบว่าเป็นกฎหมายลูก นายกรัฐมนตรีตอบว่ายังไม่ส่งมา
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นายกรัฐมนตรีเดินหน้าทำการเมืองแล้วไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ในรูปแบบการทำการเมืองของนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ยืนนิ่งสักพัก ก่อนที่จะกล่าวว่า การเมืองคนที่ทำเขาทำกันอยู่แล้วล่ะ คือการทำอย่างไรไม่ให้เป็นภาระในวันข้างหน้าเช่นการจะกู้อะไรต่างๆ ก็ต้องระมัดระวังมากที่สุด ต้องดูว่ารายได้เพียงพอหรือไม่ที่จะใช้จ่ายในทำนองนี้ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้ภาพรวมของสถานการณ์ การเงินการคลังล้มเหลว