svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เพื่อไทย ปูดเบื้องหลัง"สภาล่ม"ประเดิมความวุ่น หลังเสร็จสิ้นประชุมเอเปค

"เพื่อไทย"เผยสภาฯล่ม เพราะมี ส.ส.โดดประชุมไปเช็คชื่อที่บ้านป่ารอยต่อฯ สะท้อนสภาวะว่ารัฐบาลไปต่อยาก เรียกร้องนายกฯยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน

 

23 พฤศจิกายน  2565   "นายสมคิด เชื้อคง" ,นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ,นางสวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์,นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร และนายพรเทพ  วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลง กรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรประจำวันที่ 23 พฤศจิกายน ล่มระหว่างการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น

 

โดย"นายจุลพันธ์" กล่าวว่า การประชุมสภาฯหลังเอเปค เปิดมาวันแรกก็เกิดเหตุการณ์สภาฯล่ม เป็นสัญญาณบ่งชี้ทางด้านการเมืองที่สะท้อนถึงเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่สามารถรักษาองค์ประชุมได้ โดยอ้างว่ามีการเช็คชื่อส.ส.ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ซึ่งฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่กรรมาธิการได้แก้ไข  เพราะมีการเปลี่ยนไปจากหลักการเดิม โดยเฉพาะการที่ให้ประชาชนเข้าชื่อถอดถอน  ก็จะทำให้ผู้ที่ถูกถอนนั้นถูกหลุดออกจากตำแหน่ง โดยไม่มีกระบวนการลงมติ หรือการตรวจสอบใดๆ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความกังวล 

 

 

"นายจุลพันธ์" กล่าวต่อไปว่า  เมื่อกระบวนการดำเนินการมาถึงการพิจารณามาตรา  9/1 ซึ่งเป็นการสงวนคำแปรญัตติของกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ที่กำหนดว่า "หลังจากที่มีการเข้าชื่อถอดถอนกันแล้ว ให้มีกระบวนการเข้าสู่การลงมติของประชาชนในพื้นที่ เพื่อที่จะให้ถอดถอนได้ ไม่ใช่เพียงแค่การเข้าชื่อให้ครบจำนวน 5,000 ชื่อ แล้วจะทำให้สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นรายนั้นหลุดออกจากตำแหน่ง  

 

"ประธานสภาที่ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมมีการถามคำถามชัดเจน  เชื่อว่าทุกคนทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลมีความเข้าใจ  แต่เมื่อมีการลงมติรอบแรกผลคะแนนให้มีการเพิ่มมาตรา 9/1 ซึ่งถือว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ฝ่ายค้านชนะการโหวตในสภาฯ แต่กลับมีการท้วงติงจากสมาชิกบางคน โดยอ้างอิงว่าเข้าใจในคำถามผิด แล้วประธาน  เปิดให้โหวตว่าจะลงมติใหม่หรือไม่ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" นายจุลพันธ์ กล่าว  

 

 

ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อไปว่า  สุดท้ายเสียงข้างมากในสภาฯใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง กว่าองค์ประชุมจะเพียงพอในการลงมติ ว่าให้กลับไปโหวตใหม่ได้  แต่ฝ่ายค้านคัดค้านไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่ากระบวนการไม่ชอบ จึงไม่ขอร่วมเป็นองค์ประชุมในการโหวตรอบใหม่ และทักท้วงว่าเป็นการริดรอนสิทธิของพรรคการเมืองเสียงข้างน้อย ที่นานๆจะชนะหมด แต่มีการลงมติมาปล้นชัยชนะคืน จึงยอมไม่ได้ จากนั้นมีการตรวจสอบองค์ประชุมในเวลา 14:00 น. เพื่อที่จะลงมติใหม่ในมาตรา  9/1 แต่สุดท้ายองค์ประชุมไม่ครบ การประชุมต้องล่มและปิดไป

 

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะมีข่าวทางพรรคร่วมรัฐบาลจะชื่นมื่นหรือมีความปรองดอง ใน คณะรัฐมนตรี (ครม.) และจะลาก ครม. ไปจนถึงครบเทอม แต่เมื่อประเมินสภาวะในสภาผู้แทนราษฎรในขณะนี้ เชื่อว่าสภาจะเดินต่อลำบาก จึงเรียกร้องไปยัง"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา"  นายกรัฐมนตรีว่าหมดเวลาฮันนีมูน ขอให้"ยุบสภา" คืนอำนาจให้ประชาชน