เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 65 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "น.ส.นารี ตัณฑเสถียร" อัยการสูงสุด ที่พึ่งแถลงนโยบายหลัก 4 ด้าน "ยกระดับ ปรับเปลี่ยน วางรากฐาน สานต่ออนาคต" สู่สังคมยุติธรรมที่ดีขึ้น Better Justice เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธา ความไว้วางใจให้กับประชาชนและสังคม
ปรากฎว่า ได้มีหนังสือ อส.0001/160 เรื่องการปฎิบัติเกี่ยวกับสำนวนคดีอาญาของ"สำนักงานคดีพิเศษ" ถึง นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการ "สำนักงานคดีพิเศษ" ความว่าเนื่องจากสำนวนคดีของสำนักงานคดีพิเศษ ส่วนใหญ่จะมีลักษณะพิเศษแตกต่างจาก คดีอาญาทั่วไป มีข้อเท็จจริงยุ่งยาก สลับซับซ้อน สำนวนคดีมีเอกสารจำนวนมาก มักจะเป็นเรื่องที่มีลักษณะ ร้ายแรง กระทบกระเทือนความรู้สึกของประชาชนทั่วไป หรือมีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดเกี่ยวข้อง กับการดำเนินการโดยฝ่าฝืนกฎหมาย หรือกระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยร่วมกันหรือสมคบกันทำเป็นกระบวนที่มีความสลับซับซ้อน หรือเป็นคดีที่รัฐมีนโยบายป้องกัน หรือปราบปรามเป็นพิเศษ
ฉะนั้น เพื่อให้การควบคุม ตรวจสอบ กำกับดูแลการดำเนินคดีอาญาของสำนักงานคดีพิเศษมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ทันต่อเหตุการณ์ และโดยที่อัยการสูงสุดอาจตั้งคณะทำงาน ดำเนินคดีเฉพาะเรื่อง จึงให้ "สำนักงานคดีพิเศษ"ดำเนินการ ดังนี้
1. ให้ส่งสำเนาสารบบรับสำนวนคดีอาญาทุกประเภทต่อ"อัยการสูงสุด"ผ่าน รองอัยการสูงสุดที่รับผิดชอบงานของ"สำนักงานคดีพิเศษ"ทุกวันทำการสิ้นเดือน
2. สำหรับสำนวนการสอบสวนซึ่ง "สำนักงานคดีพิเศษ" รับไว้เป็นคดีอาญาสำคัญนั้น นอกจากการปฏิบัติตามระเบียบและหนังสือเวียนเกี่ยวกับการควบคุมการดำเนินคดีสำคัญแล้ว ก่อนที่จะ สั่งจ่ายสำนวน ให้ส่งสำนวนคดีอาญานั้นไปยังอัยการสูงสุดผ่านรองอัยการสูงสุดที่รับผิดชอบงานของสำนักงานคดีพิเศษเพื่อพิจารณาก่อน เว้นแต่สำนวนที่มีการฝากขังผู้ต้องหา และจะครบกำหนดระยะเวลา "ฝากขังตามกฎหมาย”
3. สำนวนการสอบสวนใดตามข้อ 2 หากรองอัยการสูงสุดเห็นว่าสมควรตั้งคณะทำงาน ขึ้นเพื่อดำเนินคดีเฉพาะ ให้เสนออัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาตั้งคณะทำงาน ส่วนสำนวนอื่นใดที่เห็นควรส่งกลับคืนให้สำนักงานคดีพิเศษดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ให้ดำเนินการส่งคืนได้ตามที่เห็นสมควร
4.ในกรณีที่รองอัยการสูงสุดที่รับผิดชอบงานสำนักงานคดีพิเศษไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติ ราชการได้ ให้ส่งสำนวนคดีอาญานั้นผ่านรองอัยการสูงสุดที่อยู่ปฏิบัติราชการและมีลำดับอาวุโสสูงสุด ในขณะนั้น เพื่อดำเนินการตามข้อ 2 และข้อ 3 ต่อไป
"จึงเรียนมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติ สำหรับสำนวนคดีอาญาที่ได้รับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึง 30 ก.ย.66"