อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ ต้องจับตาการประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันพุธที่ 24 ส.ค.ว่าจะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมพิจารณารับหรือไม่รับไว้วินิจฉัยหรือไม่
และตามคำร้องที่ส่งมาให้ศาลหากศาลเห็นว่าปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่ากรณีตามที่ถูกร้องศาลจะต้องมีคำสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยหรือไม่
ความคืบหน้าล่าสุด ทางด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รัฐบาลต้องเตรียม การชี้แจงอย่างไรหรือไม่ว่า
ยังไม่ต้องถึงขนาดนั้น เพราะยังไม่รู้ว่าศาลจะสั่งให้ชี้แจงหรือไม่ อาจไม่ต้องให้ใครชี้แจง หรือสั่งให้ใครชี้แจง อาจจะเป็นนายกฯ โดยตรงหรือรัฐบาล ซึ่งก็คือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อความเป็นธรรม เพราะเรื่อง นายกฯ8 ปี จะเกี่ยวกับพล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวก็คงไม่ใช่ มันต้องเป็นท่าทีของรัฐบาล จึงยังไม่รู้จะเตรียมอะไร
แต่คร่าวๆในใจมีกันอยู่ ฉะนั้นหากศาลสั่งมาแนวทางไหนก็พร้อมชี้แจง แต่ขอเวลาหน่อยวันถึงสองวัน เรื่องนี้ไม่เสียเวลาคิด แต่เสียเวลาพิมพ์ เพราะเวลายื่นคำตอบต่อศาลการพิมพ์ต้องใช้เวลาไม่ใช่นึกจะเขียนอะไรก็เขียนไปมันต้อง 9 ชุด
เมื่อถามว่า ข้อมูลในใจคร่าวๆ ที่ว่าคืออะไร นายวิษณุ กล่าวว่า บอกไม่ได้เดี๋ยวเสียรูปคดี
เมื่อถามว่า กรณีที่นายชวน ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงกับกรณีที่มีผู้ร้องผ่าน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีความต่างกันอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่แตกต่าง เป็นเรื่องดีมากที่จะทำอย่างนั้น โดยเฉพาะช่องทางกกต. จะได้ศึกษาอะไรเพิ่มเติมอย่างรอบคอบ เพราะฝ่ายค้านยื่นในมุมจ้องจะให้ออก ก็มีวิธีให้เหตุผลแบบของเขา
เมื่อถามว่า เมื่อนายชวน ยื่นเรื่องไปแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญต้องมีคำสั่งรับคำร้องภายในวันที่ 24 ส.ค.นี้ เลยหรือไม่ เพราะผู้ร้องมองว่าวันดังกล่าวเลยการดำรงตำแหน่ง 8 ปี นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่ศาลตนไม่ทราบ ส่วนจะใช้เวลาพิจารณานานหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ไม่ได้มีผลอะไรเหมือนที่ฝ่ายค้านอธิบายไปแล้วนั้นถูกต้อง เพราะเมื่อนายชวน ส่งเรื่องไปที่ศาล โดยศาลจะสั่งสองอย่างคือ ไม่รับคำร้อง กับรับคำร้อง
นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้ารับคำร้องจะมีคำสั่งตามมาว่า รับโดยให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่กับรับโดยนายกฯ ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ระหว่างรอคำพิพากษา ถ้าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็ปฏิบัติหน้าที่นายกฯแทน คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็อยู่ทำหน้าที่ทั้งหมดไม่ต้องกลัวอะไรจะโมฆะ ไม่ว่าวันไหนศาลตัดสินว่าพล.อ.ประยุทธ์ พ้นหรือไม่พ้น ครม.ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
ขณะที่ ทางด้านประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย เปิดเผยถึงการส่งคำร้องของพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดในวันที่ 23 สิงหาคมนี้หรือไม่ ว่าในวันนี้คำร้องจะนำไปส่งที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ได้ลงนามไปแล้ว ในวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
นายชวน ยังกล่าวถึง การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2566 ว่าสภามีความตั้งใจที่จะจัดทำกฎหมายให้เสร็จตามที่วิป 2ฝ่ายตกลงกัน ในวันที่ 19 สิงหาคม แต่เนื่องด้วยสภาพิจารณาไม่แล้วเสร็จ เพราะมีผู้อภิปรายมากกว่าสมัยก่อน ซึ่งก็ถือเป็นสิทธิของสมาชิกที่จะอภิปราย ขณะเดียวกันประธานก็ขอความร่วมมือให้อภิปรายตามกรอบเวลา สำหรับการอภิปรายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนจะลงมติประธานในที่ประชุมได้เรียกสมาชิกแสดงตนก่อนที่จะโหวตให้ความเห็นชอบ แต่ขาดสมาชิกเพียง 2 คนทำให้องค์ประชุมไม่ครบ ประธานจึงสั่งปิดประชุม และนัดประชุมในวันอังคารที่ 23 สิงหาคมนี้
ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวด้วยว่าหากสภาพิจารณากฎหมายงบประมาณไม่แล้วเสร็จภายใน 105 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ก็ต้องกลับไปใช้ร่างที่ ครม.เสนอ ส่งไปยังวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ แต่เชื่อมั่นว่าในการพิจารณาในวันพรุ่งนี้ จะพิจารณาเสร็จในวาระ 3 ไม่ว่าจะดึกขนาดไหน แต่ถ้ายังไม่อยากให้เสร็จก็ต้องพิจารณาต่อไป เพราะยังไม่ครบกำหนด 105 วัน ที่จะครบในวันที่ 29 สิงหาคม
“พวกเรานั่งดูกันอยู่ก็เห็น พยายามจะให้เสร็จ 3 วันตามที่ตกลงกันไว้ แต่ต้องยอมรับว่าไม่เหมือนสมัยก่อน ยิ่งช่วงปลายๆ อภิปรายกันน้อยเพื่อให้ผ่าน แต่ตอนนี้ผู้อภิปรายยังมาก ก็มีการปรับเวลา 7 นาทีเหลือ 5 นาที ซึ่งส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือดี ก็ปฎิบัติได้จริง” นายชวน กล่าว
เมื่อถามว่าสภาพยายามยืดการพิจารณามาถึงวันที่ 23 สิงหาคม ที่ตรงกับวันที่นายกรัฐมนตรีจะครบวาระ 8 ปี ที่จะนำไปสู่การยุบสภาหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า การพิจารณากฎหมายในฝ่ายนิติบัญญัติยังไม่มีปัญหาใด ที่จะนำไปสู่การประกาศบังคับใช้ และเมื่อว่าการพิจารณางบฯไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง