svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"พีระพันธ์ุ" ฟันธง วันนี้สภาฯ ล่ม ระบุ "บิ๊กตู่" เป็นเหยื่อ ปม "8 ปีนายกฯ"

15 สิงหาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พีระพันธุ์"แย้ม เกมสภาฯ วันนี้ มีผู้มีอำนาจสั่งให้ ส.ส.-สว.มาเซ็นชื่อแล้วกลับบ้าน หวังคว่ำกฎหมายลูกสูตรหาร 500 เผยปม "8 ปีนายกฯ" ประยุทธ์ ตกเป็นเหยื่ออันโอชะของนักเล่นเกม ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ชี้ชะตาอนาคตประเทศ!!

14 สิงหาคม 2565 นายพีระพันธ์  สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ความเห็นประเด็นทางกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่กำลังสร้างความสับสนให้สังคมขณะนี้ นั่นคือวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ 8  ปี กับกรณีการแก้กฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.สูตรหาร 500  ว่า

 

เรื่องที่สอบถามความเห็นผมมาอย่างมาก เป็นเรื่องที่ทั้งผมและประชาชนเบื่อหน่ายมากที่สุด คือ เรื่องเกมการเมืองไร้สาระ เรื่องวาระ 8 ปี ของนายกรัฐมนตรี และเรื่องหาร 100 หาร 500

 

เกมวาระ 8 ปีนายกฯ

 

ตามหลักกฎหมายแล้ว เรื่องวาระ 8 ปีของนายกรัฐมนตรี มีหลักเกณฑ์ในรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ แต่เพียงว่า “นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่” ปัญหาคือผู้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดวันเริ่มต้นนับหนึ่งของแปดปีไว้ว่า ให้เริ่มนับหนึ่งตั้งแต่เมื่อใด ต่างจากกรณี “ค่าโง่โฮปเวลล์” ที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่าให้เริ่มนับหนึ่งตั้งแต่ “วันที่รู้หรือควรรู้เหตุแห่งการฟ้องคดี”

 

จึงเป็นเหยื่ออันโอชะสำหรับนักเล่นเกมที่จะตีความมาตรา 158 วรรคสี่ ให้เป็นไปอย่างที่ตนคิด เพื่อประโยชน์ของตนเองไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประชาชน จะครบ 8 ปีตอนไหน ใครจะมาเป็นนายกฯ ไม่มีประโยชน์อะไรกับบ้านเมืองและประชาชนเลย หากการเมืองเต็มไปด้วยนักเล่นเกมเช่นในปัจจุบัน

 

"พีระพันธ์ุ" ฟันธง วันนี้สภาฯ ล่ม ระบุ "บิ๊กตู่" เป็นเหยื่อ ปม "8 ปีนายกฯ"

รัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายเหมือนกฎหมายและพระราชบัญญัติอื่นๆ เพียงแต่รัฐธรรมนูญมีสถานะเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ การตีความกฎหมายรัฐธรรมนูญ จึงต้องตีความตามหลักการตีความกฎหมายและต้องตีความโดยเคร่งครัด นั่นคือ ต้องตีความตามตัวอักษรเป็นอันดับแรก แต่หากตัวอักษรที่เขียนไว้ไม่มีความชัดเจนอีก ก็ต้องตีความตามเจตนารมณ์ของผู้ร่างเป็นอันดับต่อไป นั่นคือ เหตุผลของผู้ร่างตัวบทกฎหมายนั้นขึ้นมา ถ้าหาเหตุผลเจตนารมณ์ของผู้ร่างไม่ได้ ก็ต้องตีความตามขนบธรรมเนียมประเพณี ซึ่งปกติไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะการจะยกร่างกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญและเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ จะเขียนขึ้นโดยไม่มีที่มาที่ไปและไม่มีเหตุผลมาก่อนคงเป็นไปไม่ได้

 

สำหรับรัฐธรรมนูญ 2560 นี้ มีหนังสือคู่มืออธิบายเหตุผลและเจตนารมณ์ของแต่ละมาตราไว้ แต่พอมาถึงเรื่อง 8 ปี ในมาตรา 158 กลับเขียนอธิบายไว้แบบเดียวกับเนื้อความในมาตรา 158 โดยไม่ได้บอกว่านับหนึ่งจากไหนและเมื่อใด เลยไม่รู้ว่าจะเขียนขึ้นมาทำไมให้ยุ่งเล่น

 

ล่าสุดมีการเปิด “บันทึกการประชุม” ที่มีการบันทึกการสนทนาของผู้ร่างเกี่ยวกับการนับหนึ่งของระยะเวลา 8 ปีไว้ แต่กลับได้รับการปฏิเสธจากผู้ร่างว่า ที่บันทึกไว้นั้นไม่ใช่เจตนารมณ์ เป็นเพียงการพูดกันเฉยๆ หลายคนถามว่า แล้วจะพูดกันไปทำไมถ้าไม่มีเหตุผลที่มาที่ไป ตนคงตอบไม่ได้เพราะไม่ใช่ผู้ร่าง ที่แน่ๆ คือ ยิ่งเพิ่มความสับสนและความงงให้กับสังคม และเป็นเหยื่ออันโอชะ สำหรับนักเล่นเกมฝ่ายไม่เอานายกฯ ที่จะนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปว่า 8 ปี จะต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่นายกฯ เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557 จริงๆ 

 

"พีระพันธ์ุ" ฟันธง วันนี้สภาฯ ล่ม ระบุ "บิ๊กตู่" เป็นเหยื่อ ปม "8 ปีนายกฯ"

ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 ดังนั้น โดยหลักการแล้วคณะรัฐมนตรีชุด คสช. ที่มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 แล้ว แต่เผอิญมีมาตรา 264 ในบทเฉพาะกาลบัญญัติไว้ว่า ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ 2560 จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญ 2560 จะเข้ารับหน้าที่

 

ดังนั้น จึงทำให้คณะรัฐมนตรีชุด คสช. เป็นคณะรัฐมนตรีต่อไป และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปเช่นกัน และตามความหมายของกฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 264 นั้น คณะรัฐมนตรีชุด คสช. เปลี่ยนสภาพมาเป็นคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 แล้ว แต่จะเริ่มนับ 8 ปี จากวันที่ 24 สิงหาคม 2557 หรือจากวันที่ 6 เมษายน 2560 เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ

 

เรื่อง 8 ปี ตามมาตรา 158 วรรคสี่นี้ ยังเป็นเรื่องระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนเรื่องที่บัญญัติไว้ในมาตรา 158 วรรคสอง ว่า นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งจากบุคคล ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบตามหลักเกณฑ์และวิธีการมาตรา 159 นั้น เป็นวิธีการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี เป็นคนละเรื่องกับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งตามมาตรา 158 วรรคสี่ โดยเฉพาะเมื่อมีบทเฉพาะกาล มาตรา 264 บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารแผ่นดินอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ต่อไป วิธีการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 158 และมาตรา 159 จึงถูกยกเว้นไม่ใช้กับคณะรัฐมนตรีชุด คสช. ที่เป็นคณะรัฐมนตรีที่บริหารแผ่นดินอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้

 

ที่สำคัญรัฐธรรมนูญ 2560 ก็ไม่ได้เขียนไว้ว่า การนับระยะเวลา 8 ปีของการเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกตามรัฐธรรมนูญ 2560 นั้นให้เริ่มนับจากการได้รับเลือกจากรัฐสภาภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรก ตามรัฐธรรมนูญ 2560 หรือให้นับจากเมื่อใด ทุกคำตอบจึงอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ

 

เกมหาร 100 หรือ 500

 

เรื่องที่สองคือ เรื่องหาร 100 หาร 500 อันสนุกสนานของนักเล่นเกมที่สถานะล่าสุดคิดกันว่า ล้มการประชุมสภาฯ ได้แล้วก็จะผ่านฉลุยได้ตามที่วางหมากเกมไว้ ซึ่งในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ จะมีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณากฎหมายลูกเรื่องนี้ให้เสร็จตามระยะเวลา 180 วันที่รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดไว้อีกครั้ง แต่หัวหน้าทีมไม่สน สั่งลูกทีมนักเล่นเกมทั้งหลายแล้วว่าให้ไปลงชื่อแล้วไม่ต้องลงสนาม รอให้กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาตามกติกา

 

กติกา 180 วันนี้ เขาวางไว้เพื่อให้เร่งทำกฎหมายที่เป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองให้เสร็จเร็วๆ แต่นักเล่นเกมกลับนำมาใช้เป็นเครื่องมือวางหมากเกม เรื่องวุ่นเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นเพียงเพราะนักเล่นเกมเกิดเปลี่ยนข้างมายิงประตูตัวเอง ก็เท่านั้น แต่สาเหตุเกิดเพราะอะไรต้องไปถามหัวหน้าทีมผู้คอยสั่งการ แบบนี้ภาษาอังกฤษเรียกว่า “ABUSE OF POWER” แปลเป็นไทยน่าจะเรียกว่า “ใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ถูกต้อง”

"พีระพันธ์ุ" ฟันธง วันนี้สภาฯ ล่ม ระบุ "บิ๊กตู่" เป็นเหยื่อ ปม "8 ปีนายกฯ"

 

เรื่องแบบนี้ประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติไว้ในมาตรา 149 ว่า “ผู้ใดเป็น......สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ .......เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ต้องระวางโทษ........”

 

มาตรา 149 ประมวลกฎหมายอาญานี้มีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันมิให้ ส.ส. ซึ่งก็คือสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมือง จากการใช้ตำแหน่งหน้าที่ของ ส.ส. ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งหลังสุดเมื่อ พ.ศ. 2502

 

63 ปีผ่านไป ความเสียหายจากการกระทำของ ส.ส. ที่ปัจจุบันทำตัวเป็นนักเล่นเกมไม่ได้มีเพียงแค่การเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเท่านั้น แต่มันขยายไปถึงการสั่งและการรับคำสั่งรวมทั้งการบงการทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ ส.ส.เหล่านี้กระทำการที่สร้างความเสียหายให้สังคมและบ้านเมืองด้วย จึงน่าจะถึงเวลาแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาให้บรรดานักเล่นเกม โดยเฉพาะจอมบงการที่มีการกระทำแบบ “ABUSE OF POWER” หรือการ “ใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ถูกต้อง” แบบนี้ ต้องมีความผิดและต้องรับโทษทางอาญาด้วยแม้ไม่มีเรื่องของการเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดก็ตาม

 

ย้อนกลับมาเรื่องหาร 100 หาร 500 ที่จะประชุมกันในวันที่ 15 สิงหาคมนี้อีกรอบหนึ่ง ก็น่าจะล่มอีก เท่าที่ทราบมีคำสั่งมาเรียบร้อยแล้วว่าให้บรรดา ส.ส. และ ส.ว. นักเล่นเกมในอาณัติ ไปลงชื่อแล้วให้กลับบ้านได้ เพื่อใช้หลักเกณฑ์ของกฎหมายเป็นเครื่องมือหาประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง เป็นการครอบงำการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส. และ ส.ว. ในอาณัติ และเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. และ ส.ว. ที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 114 และเป็นการผิดจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรง

 

นอกจากนั้น รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 132 (1) กำหนดไว้ว่าถ้าที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญไม่แล้วเสร็จภายในกําหนดเวลา 180 วัน ให้ถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบตามร่างที่เสนอตามมาตรา 131 ที่กำหนดที่มาไว้สองประการใน (1) และ (2) ซึ่งมาตรา 131 (1) เป็นร่างของคณะรัฐมนตรี ส่วนมาตรา 132 (2) เป็นร่างของ ส.ส. ในขณะที่กรณีที่เป็นปัญหานี้มีทั้งร่างของคณะรัฐมนตรีและร่างของ ส.ส. รวมกันหลายฉบับ คือมีทั้งร่างตามมาตรา 131 (1) และ (2) แล้วร่างไหนจะถือเป็นร่างที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 132 (1)

 

บางคนบอกว่าให้ไปดูข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 101 ที่กำหนดไว้ว่าให้ถือเอาร่างที่ใช้เป็นหลักในการพิจารณาในวาระที่สองเป็นร่างที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบ ซึ่งในกรณีนี้คือร่างของคณะรัฐมนตรี ประเด็นคือข้อบังคับการประชุมรัฐสภา รวมทั้งข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาต้องเป็นเรื่องที่กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการประชุมและวิธีการทำงานของแต่ละสภาฯ และของกรรมาธิการของแต่ละสภาฯ มิใช่ให้กำหนดหลักเกณฑ์การตีความรัฐธรรมนูญ

 

การที่ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 101 กำหนดให้ถือเอาร่างที่ใช้เป็นหลักในการพิจารณาในวาระที่สองเป็นร่างที่ให้ถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบ เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์วิธีทำงานของที่ประชุมรัฐสภาหรือของกรรมาธิการของรัฐสภา หรือเป็นการตีความรัฐธรรมนูญ ถ้าเป็นอย่างแรกก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นอย่างหลังแล้ว ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 101 มีปัญหาต้องตีความอีกแน่นอน

 

หลังการประชุมรัฐสภาที่จะล่มอีกครั้งในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ การจะนำร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับไหนมาใช้บังคับต่อไปคงต้องรอศาลรัฐธรรมนูญอีกเรื่องหนึ่งแน่

 

ศาลรัฐธรรมนูญจึงเป็นผู้ชี้ชะตาอนาคตประเทศตัวจริง!!!

logoline