เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.65 "นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความผ่าน"เพจสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" ด้วยการให้ข้อคิดเตือนสติ สำนึกเป็นเรื่องสำคัญของผู้แทนปวงชนชาวไทยต่อการทำหน้าที่ในสภา
ทั้งนี้ สืบเนื่องในวันที่ 15 ส.ค.นี้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้นัดประชุมร่วมสภาอีกครั้ง เพื่อพิจารณาร่างกม.ลูกเลือกตั้งส.ส. สูตรหาร 500 อีกทั้งวันดังกล่าวถือว่าครบกำหนด 180 วัน ในการพิจารณาร่างกม.ลูกเลือกตั้ง
โดย"นายสนธิรัตน์" เริ่มต้นนำเสนอในหัวข้อ "สำนึกเป็นเรื่องสำคัญของผู้แทนประชาชนครับ" มีเนื้อหาดังนี้
คือเรื่องที่ผมขอฝากไปถึงผู้แทนของประชาชนในการประชุมร่วมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (15 สิงหา 65) เพื่อพิจารณากฎหมายลูกระบบการเลือกตั้งครับ
ประชาธิปไตยไม่ใช่รูปแบบการปกครองสำเร็จรูป ที่เมื่อมีเลือกตั้ง มีรัฐสภาและรัฐบาลแล้วจะบอกว่าดีกว่า ชอบธรรมกว่าการปกครองอื่นๆ ในทันที เราไม่ได้ยกย่องประชาธิปไตยกันด้วยเหตุผลนั้นครับ
แต่เรายึดถือประชาธิปไตยกันทั่วโลกก็เพราะระบอบนี้เรียกร้องให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง ผูกมัดให้นักการเมืองจากการเลือกตั้งต้องรับผิดชอบต่อประชาชนและผลประโยชน์ของชาติ
ประชาธิปไตยจะเรียกว่าชอบธรรมได้ เราต้องดูกันที่ "คุณภาพของกระบวนการ" ว่าเปิดพื้นที่ให้ประชาชนแค่ไหน ผู้แทนรับผิดชอบต่อประชาชนเพียงใด และรัฐบาลฟังเสียงสะท้อนและตอบสนองต่อปัญหาของประชาชนอย่างไร นั่นคือเหตุผลที่เราเป็นประชาธิปไตยกัน
ถ้ากระบวนการสำคัญ สำนึกของนักการเมืองในกระบวนการก็สำคัญด้วยครับ ต่อให้เราออกแบบระบบเลือกตั้งและรัฐสภาดีแค่ไหน แต่ถ้านักการเมืองขาดสำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบต่อประชาชน จะระบบเลือกตั้งไหนๆ ก็ไม่ช่วยยกระดับคุณภาพของกระบวนการได้
ซึ่งก็หมายความว่าประชาธิปไตยขาดความชอบธรรมตามไปด้วย เวลาเด็กๆ บกพร่องต่อหน้าที่สัก 2-3 ครั้ง ถ้าไม่หนักหนาเกินไปเราก็พร้อมให้อภัยใช่ไหมครับ แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ ยิ่งถ้าเป็นสมาชิกผู้ทรงเกียรติแล้วด้วย บกพร่อง 2-3 ครั้ง ก็คงมองได้อย่างเดียวว่าเป็นความตั้งใจหรือทำอย่างมีเจตนาบางอย่าง
ปัญหา ก็คือ เจตนานั้นขัด หรือฝืนกับความต้องการของประชาชนหรือไม่ อย่างไร ยิ่งถ้าไม่มีความต้องการของประชาชนอยู่ในนั้นเลยก็ยิ่งแล้วใหญ่
ผมเชื่อมั่นแบบนี้ว่าประชาธิปไตยจะชอบธรรมได้ทั้งกระบวนการและนักการเมืองต้องมีพฤติกรรมที่สอดคล้องกัน จะบอกว่ามีการเลือกตั้งแล้ว เราเป็นประชาธิปไตยแล้ว มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลยเว้นแต่จะแสดงออกถึงความรับผิดชอบตามความคาดหวังของประชาชน
การเลือกตั้งใกล้เข้ามาทุกทีครับ ท่านอยากให้ประชาชนมีภาพจำท่านแบบไหน ท่านก็พึงทำแบบนั้น กลับกัน ท่านไม่อยากให้ประชาชนหมดศรัทธากับตัวท่านแบบไหน ก็พึงหลีกเลี่ยงกระทำสิ่งนั้น