svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ญี่ปุ่นทุ่มงบกลาโหมสถิติใหม่ "9 ล้านล้านเยน" คานอำนาจจีน

ครม. ญี่ปุ่น อนุมัติงบกลาโหมปี 2026 สูงเป็นประวัติการณ์กว่า 9 ล้านล้านเยน เร่งติดตั้งขีปนาวุธและโดรน หวังเสริมเขี้ยวเล็บรับมือความตึงเครียดกับ จีน ในประเด็นไต้หวัน

คณะรัฐมนตรี ญี่ปุ่น ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทากาอิชิ ได้อนุมัติร่างงบประมาณด้านกลาโหมสำหรับปีงบประมาณ 2026 สูงถึง 9 ล้านล้านเยน (1.79 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 9.4% จากปีก่อนหน้า ถือเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อเร่งเสริมสร้างขีดความสามารถในการโจมตีตอบโต้และการป้องกันชายฝั่ง ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคที่ทวีความรุนแรงขึ้น

เร่งติดตั้งขีปนาวุธพิสัยไกลและเทคโนโลยีโดรน

งบประมาณก้อนโตนี้จะถูกจัดสรรเพื่อยกระดับอาวุธยุทโธปกรณ์ขนานใหญ่ โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถด้านขีปนาวุธและโดรนไร้คนขับ

  • ขีปนาวุธ Type-12: ทุ่มงบกว่า 1.77 แสนล้านเยน เพื่อจัดซื้อขีปนาวุธต่อต้านเรือที่พัฒนาเองซึ่งมีพิสัยไกลถึง 1,000 กิโลเมตร โดยจะเริ่มติดตั้งในจังหวัดคุมาโมโตะทางตอนใต้เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม 1 ปี
  • ระบบ SHIELD: จัดสรรงบ 1 แสนล้านเยน เพื่อวางระบบโดรนไร้คนขับทั้งทางอากาศ ผิวน้ำ และใต้น้ำ สำหรับการเฝ้าระวังชายฝั่ง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนกำลังพลจากสังคมสูงวัยของญี่ปุ่น
  • ความร่วมมือสากล: ลงทุนกว่า 1.6 แสนล้านเยน ร่วมกับอังกฤษและอิตาลี เพื่อพัฒนาเครื่องบินรบรุ่นถัดไป (Next-generation fighter jet) ที่มีกำหนดใช้งานในปี 2035

ปมร้อนไต้หวัน: จุดเปลี่ยนนโยบายความมั่นคง

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากนายกฯ ทากาอิชิ ออกมาระบุว่ากองทัพญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงหาก จีน ใช้กำลังต่อไต้หวัน ประกอบกับเหตุการณ์ล่าสุดที่เครื่องบินรบจีนล็อกเป้าเรดาร์ใส่เครื่องบินญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณเตรียมโจมตี ทำให้รัฐบาลโตเกียวต้องเร่งยกระดับงบประมาณด้านอาวุธให้แตะระดับ 2% ของ GDP ภายในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมถึง 2 ปี

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเตรียมปรับปรุงนโยบายความมั่นคงและกลาโหมภายในเดือนธันวาคม 2026 เพื่อเปลี่ยนผ่านบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเอง (JSDF) จากเดิมที่เน้นเพียงการตั้งรับตามหลักการหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มาสู่บทบาทที่มีประสิทธิภาพในการเชิงรุกมากขึ้นภายใต้พันธมิตรความมั่นคงกับสหรัฐฯ