
คณะรัฐมนตรี ญี่ปุ่น ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทากาอิชิ ได้อนุมัติร่างงบประมาณด้านกลาโหมสำหรับปีงบประมาณ 2026 สูงถึง 9 ล้านล้านเยน (1.79 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 9.4% จากปีก่อนหน้า ถือเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อเร่งเสริมสร้างขีดความสามารถในการโจมตีตอบโต้และการป้องกันชายฝั่ง ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคที่ทวีความรุนแรงขึ้น
งบประมาณก้อนโตนี้จะถูกจัดสรรเพื่อยกระดับอาวุธยุทโธปกรณ์ขนานใหญ่ โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถด้านขีปนาวุธและโดรนไร้คนขับ
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากนายกฯ ทากาอิชิ ออกมาระบุว่ากองทัพญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงหาก จีน ใช้กำลังต่อไต้หวัน ประกอบกับเหตุการณ์ล่าสุดที่เครื่องบินรบจีนล็อกเป้าเรดาร์ใส่เครื่องบินญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณเตรียมโจมตี ทำให้รัฐบาลโตเกียวต้องเร่งยกระดับงบประมาณด้านอาวุธให้แตะระดับ 2% ของ GDP ภายในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมถึง 2 ปี
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเตรียมปรับปรุงนโยบายความมั่นคงและกลาโหมภายในเดือนธันวาคม 2026 เพื่อเปลี่ยนผ่านบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเอง (JSDF) จากเดิมที่เน้นเพียงการตั้งรับตามหลักการหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มาสู่บทบาทที่มีประสิทธิภาพในการเชิงรุกมากขึ้นภายใต้พันธมิตรความมั่นคงกับสหรัฐฯ