
23 ตุลาคม 2568 สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาซึ่งลี้ภัยที่ฝรั่งเศส เผยแพร่แถลงการณ์ในนาม สภาต่อต้านแห่งชาติกัมพูชา (Cambodia National Resistance Council : CNRC) ประกาศจัดตั้งคณะรัฐมนตรีภายใต้ชื่อ "รัฐบาลกัมพูชาอิสระ 23 ตุลาคม" เพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตย ปกป้องเอกราชของชาติ และต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมที่ได้รับการคุ้มครองจากระบอบกรุงพนมเปญในปัจจุบัน
โดย สม รังสี กล่าวว่า ตระกูลฮุนได้ร่วมมือกับโจร จึงไม่สามารถนำประเทศได้อีกต่อไป หากพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ไม่ต้องการถูกกล่าวหาเป็นพรรคของโจร ก็ต้องถอดตระกูลฮุนออกจากตำแหน่งผู้นำของพรรค
เนื่องในโอกาสครบรอบ 34 ปีของข้อตกลงสันติภาพกรุงปารีสว่าด้วยกัมพูชา (ลงนามเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 1991) สภาต่อต้านแห่งชาติกัมพูชา (CNRC) ประกาศว่าจะปฏิบัติหน้าที่ในบทบาทของคณะรัฐมนตรีภายใต้ชื่อ “รัฐบาลกัมพูชาอิสระ 23 ตุลาคม”
ความริเริ่มนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ CNRC ที่จะดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบ ท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองของประเทศ และเพื่อตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องเร่งด่วนของประชาชนชาวเขมร ที่ต้องการให้เกิดความชอบธรรมในการปกครอง
CNRC มีที่มาจากพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ซึ่งเคยได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากประชาชนในปี 2013 และ 2017 ก่อนจะถูกระบอบฮุน เซน สั่งยุบอย่างไม่เป็นธรรม โดยเกรงกลัวต่อการตื่นตัวทางประชาธิปไตยของประชาชน
CNRC ยืนยันว่ารัฐบาลของฮุน เซน และฮุน มาเนต ในปัจจุบัน ไม่มีความชอบธรรม เพราะได้ทำลายเจตจำนงของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งเหล่านั้น
เป้าหมายหลักของความริเริ่มนี้ คือการผลักดันให้บรรลุเจตนารมณ์ของประชาชนชาวกัมพูชา ตามข้อตกลงสันติภาพกรุงปารีส ปี 1991 ซึ่งเป็นรากฐานให้กัมพูชาอยู่รอดในฐานะประเทศที่สงบสุข มีอธิปไตย และเป็นอิสระ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแบบพหุนิยม และมีพรมแดนที่ปลอดภัย
ข้อตกลงสันติภาพกรุงปารีสได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า กัมพูชาต้องถูกปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยเสรีและพหุนิยม
CNRC ยืนยันว่าฮุน เซน ได้ละเมิดหลักการเหล่านี้อย่างเป็นระบบ ทำลายโอกาสของประชาธิปไตย และบ่อนทำลายหลักประกันระหว่างประเทศที่เคยคุ้มครองเอกราชและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา
ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา กัมพูชาได้กลายสภาพเป็น “รัฐมาเฟีย” ซึ่งเต็มไปด้วยการหลอกลวงทางออนไลน์และอาชญากรรมบนอินเตอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายข้ามชาติและได้รับการคุ้มครองจากรัฐ CNRC ระบุว่าระบอบปัจจุบันเป็น “ระบบอาชญากรรมที่แฝงอยู่ในโครงสร้างการปกครอง” ซึ่งเป็นภัยต่อเสถียรภาพของทั้งประเทศและภูมิภาค
รัฐบาล 23 ตุลาคม แสดงความขอบคุณต่อสหรัฐอเมริกา สำหรับการดำเนินการเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ในการขึ้นบัญชีดำและดำเนินคดีกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ที่นำโดย เฉิน จื้อ (Chen Zhi) พร้อมกับผู้ร่วมขบวนการหลายสิบราย รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชาจากครอบครัวและเครือบริวารของ ฮุน เซน ผู้นำที่ไม่อาจถูกปลดออก ซึ่งครองอำนาจมากว่าสี่ทศวรรษ
CNRC ระบุว่านี่เป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญในสงครามระดับโลกกับการทุจริตและอาชญากรรมข้ามชาติที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ” พร้อมเรียกร้องให้ทุกประเทศที่มีพลเมืองตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์หรือการค้ามนุษย์ในกัมพูชา สนับสนุนความพยายามในการรื้อถอนเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้
โดยยืนยันว่าข้อตกลงสันติภาพกรุงปารีสเป็นกรอบที่ชอบธรรมเพียงหนึ่งเดียว สำหรับสันติภาพ เอกราช และประชาธิปไตยของกัมพูชา CNRC ได้เน้นย้ำหลักการสำคัญสามประการดังนี้
1. บูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา ต้องได้รับการค้ำประกันโดยสนธิสัญญาระหว่างประเทศ เพื่อยุติความจำเป็นของการเผชิญหน้าด้วยกำลังอาวุธ
2. กัมพูชาต้องกลับคืนสู่ประชาธิปไตยแท้จริง และเคารพสิทธิมนุษยชน ซึ่งถูกกัดกร่อนลงภายใต้การปกครองแบบเผด็จการเป็นเวลาหลายทศวรรษ
3. กัมพูชาต้องฟื้นฟูเอกราชโดยสมบูรณ์ ผ่านการวางตัวเป็นกลางอย่างเข้มงวด รวมถึงการยุติฐานทัพเรือของจีนที่เรียม และถอนกำลังทหารต่างชาติทั้งหมดออกจากประเทศ
“รัฐบาลกัมพูชาอิสระ 23 ตุลาคม จะฟื้นฟูเจตนารมณ์ของข้อตกลงสันติภาพกรุงปารีส สร้างสถาบันประชาธิปไตยขึ้นใหม่ ยึดมั่นในหลักนิติธรรม และคืนอำนาจให้แก่ประชาชนชาวกัมพูชา — ซึ่งเป็นที่มาที่แท้จริงของอธิปไตยแห่งชาติ”