
13 ตุลาคม 2568 หลังจากประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ของเกาหลีใต้ ประกาศให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับการปกป้องพลเมืองเกาหลีใต้จากอาชญชากรรมในกัมพูชา ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (National Police Agency) หรือ NPA ขานรับทันที โดยจะใช้โอกาสการประชุมทวิภาคีระหว่างผู้บัญชาการตำรวจของทั้งสองประเทศ ซึ่งจะจัดขึ้นคู่ขนานกับการประชุมสุดยอด ตำรวจสากล (International Police Summit 2025) ที่กรุงโซล ระหว่างวันที่ 20-23 ตุลาคมนี้ กำหนดให้การรับมือกับอาชญากรรม "ฟิชชิ่ง" (Phishing) ขึ้นเป็นวาระสำคัญ และผลักดันให้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อจัดตั้งแผนกตำรวจเกาหลีในกัมพูชา และตำรวจเกาหลีไปประจำการด้วย
สื่อเกาหลีใต้ ได้ให้ความสนใจอย่างมาก และรายงานความคืบหน้าตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะหลังจากรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยู แจ-ซอง ประกาศในงานแถลงข่าววันนี้ว่า "ในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ เขาประชุมทวิภาคีกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ณ กรุงโซล เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดตั้ง "โคเรียน เดสค์" (Korean Desk) หรือ โต๊ะร้องเรียนสำหรับเกาหลี ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ ไปจัดการกับอาชญากรรมที่พุ่งเป้าไปที่ชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา โดยคาดว่าจะช่วยให้สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว
เนื่องจากผู้ที่ตกเป็นเหยื่อหรือญาติพี่น้อง สามารถสื่อสารกับตำรวจในพื้นที่ได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านสถานทูต ทั้งยังตัดสินใจที่จะขยายกำลังเจ้าหน้าที่กงสุลในพื้นที่ ที่มีอาชญากรรมพุ่งเป้าไปที่ชาวเกาหลีด้วย เรื่องนี้เกิดจากความกังวลที่ว่า ปัจจุบันสถานทูตเกาหลีใต้ในกัมพูชามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียง 3 นาย ทำให้ยากต่อการรับมือกับอัตราการเกิดอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ตำรวจเกาหลีใต้ ยังอยู่ระหว่างการประสานงานด้านคดีอาญาและกระบวนการยุติธรรม ร่วมกับสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Forensic Service) ที่จะเดินทางไป กัมพูชาเพื่อทำการชันสูตรพลิกศพของนักศึกษาวัย 22 ปี ที่ถูกล่อลวงไปทำงาน แต่กลับถูกกักตัวไว้เรียกค่าไถ่ ก่อนถูกซ้อมจนเสียชีวิต และการไปครั้งนี้ ก็เพื่อนำศพของเขากลับคืนไปสู่ครอบครัว
ในกรณีที่เกาหลีใต้ ไม่คิดจะเพิ่มจำนวนตำรวจที่ประจำอยู่ที่สถานทูต ในกรุงพนมเปญ แต่กลับส่ง "ตำรวจชุดใหม่" เข้าไปจัดการกับแก๊งอาชญากรที่ทำร้ายชาวเกาหลีใต้โดยเฉพาะนั้นได้จุดกระแสความสนใจว่า ตำรวจที่จะเข้าไปต้องเป็นชุดปฏิบัติการที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และด้วยเพราะกัมพูชากลายเป็นพื้นที่อิทธิพลของ "จีนเทา" ก็ยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นว่า หน่วยตำรวจที่ส่งไปจะสายลับ หรือชุดเฉพาะกิจด้วยหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ในตอนนี้ ชาวเกาหลีใต้เริ่มรณรงค์เตือนไม่ให้ไปกัมพูชากันแล้ว
https://news.kbs.co.kr/news/pc/view/view.do?ncd=8379353
เหยื่อวัย 22 กับคนร้ายที่ถูกจับ