
24 กันยายน 2568 เกิดการอพยพครั้งใหญ่ของประชาชนเกือบ 2 ล้านคน ออกจากนครใหญ่ทางภาคใต้ของจีน เพื่อรับมือซูเปอร์ไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดลูกหนึ่งของโลกในปีนี้ ในขณะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของโลก หลังพัดผ่านไต้หวัน ทำให้เกิดน้ำท่วม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน สูญหายมากกว่า 100 คน
ซูเปอร์ไต้ฝุ่น "รากาซา" ได้พัดกระหน่ำฮ่องกง ศูนย์กลางทางการเงินแห่งเอเชีย และพื้นที่ทางตอนใต้ของจีน ในวันนี้ หลังจากพัดถล่มหมู่เกาะห่างไกลในฟิลิปปินส์ และไต้หวัน อิทธิพลของพายุทำให้เกิดฝนตกหนัก ดินถล่ม คลื่นยักษ์ ก่อนเคลื่อนตัวเข้าสู่มณฑลกวางตุ้งของจีน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองใหญ่ๆ อย่างเสิ่นเจิ้น และกว่างโจว
หน่วยกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาผู้สูญหาย 129 ราย หลังเขื่อนกั้นน้ำธรรมชาติที่กั้นทะเลสาบที่เพิ่งก่อตัวพังทลาย ส่งผลให้น้ำ 68 ล้านตัน ไหลบ่าเข้าท่วมเมืองกวงฟู่ที่อยู่ใกล้เคียง ในพื้นที่แถบภูเขาของเขตฮั่วเหลียน กระแสน้ำที่ไหลบ่าเข้าไปบนถนน ส่งผลให้รถยนต์หลายคันถูกพัดหายไป ประชาชนต้องขึ้นไปหลบภัยที่ชั้นบน ขณะที่ชั้นล่างของบ้านเรือนถูกน้ำท่วม
ทางการเตือนก่อนแล้วว่าเศษซากจากดินถล่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ซึ่งก่อตัวเป็นเขื่อนธรรมชาติ อาจทะลายมาพร้อมกับกระแสน้ำจากทะเลสาบที่เอ่อล้น แต่ก็ไม่สามารถขุดลอก หรือรื้อออกได้ จึงได้แต่ประกาศเตือนให้อพยพล่วงหน้า
ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และภาคใต้ของจีน ต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นหลายครั้งในแต่ละปี แต่วิกฤตสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ทำให้พายุรุนแรงและคาดเดาได้ยากยิ่งขึ้น โดยพายุเคลื่อนเข้าสู่ฮ่องกงในเช้าวันนี้ พัดด้วยความแรงลมกระโชกสูงสุด 168 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนต้นไม้หักโค่นและอาคารทรุดตัว สิ่งปลูกสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ เช่น โรงแรมฟูลเลอร์ตัน โอเชียนพาร์ค ถูกแรงลมพัดประตูกระจกแตกและคลื่นซัดเข้าไปในล็อบบี้
ฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 8 ล้านคน ต้องประกาศเตือนภัยพายุในระดับสูงสุด ส่งผลให้โรงเรียน ธุรกิจ และระบบขนส่งสาธารณะส่วนใหญ่ปิดให้บริการ รวมถึงสนามบินของเมือง ที่เป็นหนึ่งในสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในเอเชีย ท่ามกลางคำเตือนคลื่นสูง 3 เมตร