svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

มือกฎหมาย "ทรัมป์" ตั้งรางวัลนำจับ "ผู้นำเผด็จการของเวเนซุเอลา" 50 ล้านดอลลาร์

มือกฎหมาย "โดนัลด์ ทรัมป์" ตั้งรางวัลนำจับ 50 ล้านดอลลาร์ ให้ใครก็ตาม ที่แจ้งเบาะแสที่จะไปนำไปสู่การจับกุม "ผู้นำเผด็จการของเวเนซุเอลา"

8 สิงหาคม 2568 แพม บอนดี อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ ที่ได้ชื่อว่า เป็นเครื่องมือทางกฎหมายของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เขาต้อง "พกไว้ใกล้ตัว" กำลังจะเป็นอาวุธร้ายที่ทรัมป์ใช้เล่นงาน ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา ด้วยการประกาศตั้งรางวัลมหาศาลถึง 50 ล้านดอลลาร์ (1,600 ล้านบาท) ให้ "ใครก็ตาม" ที่สามารถแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจุบกุมมาดูโรได้

 

มือกฎหมาย "ทรัมป์" ตั้งรางวัลนำจับ "ผู้นำเผด็จการของเวเนซุเอลา" 50 ล้านดอลลาร์

 

มือกฎหมาย "ทรัมป์" ตั้งรางวัลนำจับ "ผู้นำเผด็จการของเวเนซุเอลา" 50 ล้านดอลลาร์

 

 

ข้อกล่าวหาที่ถึงกับต้องตั้งรางวัลนำจับ ล้วนถูกโยงให้เกี่ยวข้องกับ "ภัยอันตราย" ต่อสหรัฐฯ ทั้งคบคิดกับสารพัดแก๊งอาชญากรตัวฉกาจ โดยเฉพาะองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ เช่น Tren de Aragua, Sinaloa และ Cartel of the Suns ลักลอบนำปืนและยาเสพติดผิดกฎหมายเข้าไปในสหรัฐฯ

 

มือกฎหมาย "ทรัมป์" ตั้งรางวัลนำจับ "ผู้นำเผด็จการของเวเนซุเอลา" 50 ล้านดอลลาร์

นิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา

 

 

 

 

ซึ่งบอนดี บอกว่า ในจำนวนยาเสพติดที่ทะลักเข้าสหรัฐฯ มีอยู่ 7 ตัน ที่เกี่ยวพันกับมาดูโรโดยตรง และเป็นแหล่งรายได้หลักของแก๊งต่างๆ ที่เคลื่อนไหวปฏิบัติการในเวเนซุเอลาและเม็กซิโก

ยาเสพติดที่ทรัมป์โทษว่า มาจากเวเนซุเอลา ก็คือ โคเคน และยิ่งนำมาผสมกับสารเสพติดที่มีฤทธิ์ร้ายแรงอย่าง เฟนทานิล ก็สามารถทำให้ชาวอเมริกันล้มตายได้ไม่ต่างอะไรจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืน

มาดูโร วัย 62 ปี ตกเป็นเป้าโจมตีของระบบยุติธรรมสหรัฐฯ มาตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2563 เมื่อศาลแขวงสหรัฐฯ ประจำเขตใต้ของนิวยอร์ก (Southern District of New York) ได้ตั้งข้อหาเขา ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด รวมทั้งข้อหา "ก่อการร้ายด้วยยาเสพติด" (narco-terrorism) ที่เป็นการสมรู้ร่วมคิดกันนำเข้าโคเคนและครอบครองปืนกลกับอุปกรณ์ทำลายล้างต่างๆ

 

 

สำหรับบอนดี เธอดำรงแหน่งอัยการสูงสุดของรัฐฟลอริดา เป็นเวลา 8 ปี เคยเป็นส่วนหนึ่งของทีมทนายความของทรัมป์ ในการพิจารณาคดีถอดถอนครั้งแรก และสนับสนุนข้อกล่าวหาฉ้อโกงอันเป็นเท็จของเขา หลังการเลือกตั้งปี 2563 และเธอก็อยู่ในวงโคจรของทรัมป์นับตั้งแต่นั้นมา และยังคงให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ทรัมป์อย่างต่อเนื่อง

แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าบอนดีจะอยู่ในตำแหน่งที่สามารถรับหน้าที่ตามเป้าหมายของทรัมป์ ในการปฏิรูปกระทรวงยุติธรรม และตอบสนองความพยาบาทของเขา ที่จะแก้แค้นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองได้อย่างง่ายดาย