"กัมพูชา" เตรียมเพิ่มงบกลาโหม - บังคับเกณฑ์ทหารปีหน้า

15 กรกฎาคม 2568 สื่อกัมพูชา "พนมเปญโพสต์" (Phnom Penh Post) รายงานว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม เพื่อปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย และมีแผนที่จะบังคับใช้ "การรับราชการทหารภาคบังคับ" เริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยจะมีการแก้ไขกฎหมาย 2 ฉบับ คือ กฎหมายว่าด้วยการเกณฑ์ทหารที่ประกาศใช้ในปี 2549 และกฎหมายบำเหน็จบำนาญข้าราชการทหาร โดยเพิ่มระยะเวลาการรับราชการทหารของทหารเกณฑ์จาก 18 เดือน เป็น 24 เดือน 

ส่วนบุคคลที่พ้นกำหนดรับราชการทหารภาคบังคับแล้ว สามารถเลือกได้ว่าจะกลับเข้าสู่ชีวิตพลเรือน หรือเข้าร่วมกองทัพต่อไป โดยในช่วง 2 ปีที่รับราชการ ทหารเกณฑ์จะได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตทหาร และตัดสินใจว่าเหมาะสมกับตนเองหรือไม่ ส่วนผู้ที่เสร็จสิ้นการรับราชการแล้ว จะได้รับการฝึกอบรมด้านวินัยและกลายเป็นพลเมืองที่ดีขึ้น

นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวในพิธีฉลองครบรอบ 32 ปี "กองราชอาวุธหัตถ์" (Royal Gendarmerie) ซึ่งเป็นหน่วยงานกึ่งทหารที่อยู่ภายใต้สังกัดของกองทัพกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมว่า ปัจจุบันกัมพูชามีศักยภาพเพียงพอที่จะป้องกันดินแดนของตัวเองได้ แต่ประเทศยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยจำเป็นต้องมีการปฏิรูปด้านกลาโหมอย่างรวดเร็ว รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างทางทหารให้ทันสมัย การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการยกระดับยุทโธปกรณ์ 

ผู้นำกัมพูชา กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณแผ่นดิน เราจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมในระดับหนึ่ง หลังสงครามและนโยบายที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ เราได้จัดสรรงบประมาณด้านกลาโหมส่วนใหญ่ไปให้กับภาคส่วนอื่นๆ เช่น การใช้จ่ายด้านสังคม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศึกษา การดูแลสุขภาพ และด้านอื่นๆ ที่มีความสำคัญ โดยแม้ว่างบประมาณจะถูกจัดสรรไปยังภาคส่วนสำคัญอื่นๆ แต่อาวุธยุทโธปกรณ์ของกัมพูชา ส่วนใหญ่ได้ถูกทำลายไประหว่างปี 2536-2541 เช่นกัน

ปัจจุบัน กัมพูชามีขีดความสามารถในการป้องกันประเทศอย่างเพียงพอ แต่ยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ต้องปฏิรูปการป้องกันประเทศอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างทางทหารให้ทันสมัย การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการปรับปรุงยุทโธปกรณ์ 

ฮุน มาเนต กล่าวย้ำด้วยว่า การเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมนั้น "ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่การทำสงครามหรือการยึดครองดินแดนของผู้อื่น แต่เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินกัมพูชาเท่านั้น" 

โดยแม้จะปฏิเสธ แต่ถ้อยแถลงของเขาก็สอดคล้องกับสถานการณ์ความตึงเครียดที่ยืดเยื้อบริเวณชายแดนกับประเทศไทย ขณะที่ ความสัมพันธ์ของสองประเทศเพื่อนบ้านเสื่อมถอยลงอย่างมาก หลังเผชิญหน้าด้วยอาวุธเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ทำให้ทหารกัมพูชา 1 นาย เสียชีวิตในพื้นที่พิพาท 

.
https://www.facebook.com/100069511484329/videos/794198956265750