
รายงานผลการสืบสวนของสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุอากาศยาน (Aircraft Accident Investigation Bureau) หรือ AAIB ของอินเดีย เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ เที่ยวบิน AI171 ของสายการบินแอร์อินเดีย ตก หลังบินขึ้นได้ไม่นาน ระบุว่า "สวิตช์ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง" ของเครื่องยนต์ทั้งสองข้าง ได้ถูกเปลี่ยนจากโหมด "ใช้งาน" (RUN) ไปเป็น "ตัดน้ำมัน" (CUT OFF) ซึ่งเป็นการสั่งดับเครื่องยนต์ ซึ่งตัดทฤษฎี "นกชนเครื่องบิน" ออกไปได้
เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ถึงข้อมูลจาก "กล่องดำ" ที่รวมถึงข้อมูลการบิน 49 ชั่วโมง และเสียงในห้องนักบิน 2 ชั่วโมง รวมถึงเสียงที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เครื่องบินตก โดยในขณะที่สวิตช์ตัดน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ทั้ง 2 ข้าง ถูกเปลี่ยนจากตำแหน่ง RUN เป็น CUTOFF ทีละตัว
โดยมีช่วงเวลาห่างกัน 01 วินาที นั้น เครื่องบินกำลังเร่งความเร็วขึ้นไปที่ 180 นอต อยู่กลางอากาศ หลังเพิ่งทะยานขี้นจากรันเวย์ และมีเสียงของนักบินคนหนึ่งในห้องนักบินถามว่า "ทำไมถึงตัดสัญญาณ" และนักบินอีกคนตอบว่า "ไม่ได้ทำ"
โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิต 260 คน รอดชีวิตเพียง 1 คน ซึ่งก่อนเกิดอุบัติเหตุ สวิตช์ถูกสลับกลับไปยังตำแหน่งที่ควรอยู่ เครื่องยนต์ที่ 1 ได้หยุดการลดรอบ และพยายามเข้าสู่ขั้นตอนการฟื้นตัว (recovery)
ส่วนเครื่องยนต์ที่ 2 แม้สามารถติดไฟใหม่ (relight) ได้ แต่แรงขับไม่พอที่จะดึงให้เครื่องบินทะยานกลับขึ้นมาได้ ซึ่งไม่กี่วินาทีหลังจากเครื่องยนต์พยายามจะติดขึ้นอีกครั้ง ก็มีเสียงหนึ่งในนักบินตะโกนว่า "เมย์เดย์ เมย์เดย์ เมย์เดย์" ซึ่งเจ้าหน้าที่หอบังคับการบินได้ตะโกนกลับไป แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ได้แต่ดูเครื่องบินตกในระยะไกล
เครื่องบิน 787 ติดตั้งสวิตช์ตัดน้ำมันเชื้อเพลิง จะอยู่ระหว่างที่นั่งของนักบินทั้งสอง ด้านหลังคันเร่งของเครื่องบิน ด้านข้างของสวิตช์มีแถบโลหะป้องกัน และมีกลไกการล็อกที่ออกแบบมา เพื่อป้องกันการตัดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยไม่ได้ตั้งใจ
เที่ยวบิน AI171 อยู่ระหว่างการเดินทางจากสนามบินอาห์เมดาบัด ของอินเดีย ไปยังสนามบินแกตวิค ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ โดยมีผู้โดยสารและลูกเรือรวม 242 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวอินเดีย 169 คน ชาวอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และชาวแคนาดา 1 คน