
12 มิถุนายน 2568 รายงานข่าวต่างประเทศแจ้งว่า "หน่วยนาวิกโยธินของสหรัฐฯ" จะเข้าสมทบกับ "กองกำลังรักษาดินแดน" ที่ประจำการอยู่ตามถนนสายต่างๆ ใน "นครลอส แองเจลิส" ภายใน 2 วันนี้
และได้รับอนุญาตให้จับกุมใครก็ตามที่แทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) ในการจับกุมผู้อพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หรือผู้ประท้วงที่เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลกลาง
ภายหลัง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งให้ประจำการทหารรักษาดินแดนในรัฐแคลิฟอร์เนีย
แม้มีเสียงคัดค้านจาก เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐฯ จุดประเด็นขัดแย้งทั่วประเทศ เกี่ยวกับการใช้กำลังทหารบนแผ่นดินสหรัฐฯ และการประท้วงที่ลุกลามจาก "ลอส แองเจลิส" ไปยังเมืองใหญ่อื่นๆ รวมทั้ง "นิวยอร์ก" "แอตแลนตา" และ "ชิคาโก"
พันตรี สกอตต์ เชอร์แมน ผู้บัญชาการทหารรักษาดินแดน จำนวน 4,000 นาย กับหน่วยนาวิกโยธิน 700 นาย ที่ได้รับคำสั่งให้เข้าไปปฏิบัติภารกิจใน ลอส แองเจลิส เปิดเผยว่า ทหารเหล่านี้ได้รับไฟเขียวให้ควบคุมตัวผู้ก่อความไม่สงบได้ชั่วคราว จนกว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจะไปถึง โดยทหารเหล่านี้ ไม่ได้บังคับใช้กฎหมายโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการจับกุม หรือการค้นหาและยึด แต่ใช้อำนาจจับกุมเฉพาะเพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางในขณะที่พวกเขาปฏิบัติหน้าที่
พลตรี เชอร์แมน กล่าวว่า หน่วยนาวิกโยธินที่เข้าประจำการ ได้รับการฝึกให้ใช้ปืนเพื่อป้องกันตัว แต่ปืนไรเฟิลของพวกเขา จะไม่บรรจุกระสุนจริงในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ และพวกเขาได้เข้ารับการฝึกเป็นเวลา 2 วัน เกี่ยวกับวิธีการรับมือความไม่สงบทางสังคม
มีรายงานว่าการใช้โดรนทหาร "MQ-9 Reaper" ในการตรวจสอบความสงบเรียบร้อยด้วย ถือเป็นการใช้ทรัพยากรทางทหาร และเป็นทรัพย์สินของกระทรวงกลาโหม ที่ปกติจะใช้ในพื้นที่สงครามในต่างประเทศ มาใช้ในเมือง
โดยถูกพบว่าบินอยู่เหนือย่านพาราเมาท์ และชานนครลอส แองเจลิส ก่อนจะมุ่งสู่ชายแดนด้านที่ติดกับเม็กซิโก
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เมื่อปี 2563 เจ้าหน้าที่ ICE มีการใช้โดรนทหาร "MQ-9 Reaper" ในระหว่างการประท้วงกรณี "จอร์จ ฟลอยด์" ที่จุดประเด็นต่อต้านการเหยียดผิว "Black Lives Matter"
การสั่งประจำการทหารและการใช้โดรนทางทหาร ถูกมองว่า รัฐบาลกลางกำลังเข้าไปยึดอำนาจไปจากรัฐ หรือรัฐบาลท้องถิ่น
ซึ่งรัฐบาล ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจสอบบริษัทที่ต้องสงสัยว่า จ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย พร้อมสั่งการให้ ICE กำหนดโควตาการตรวจสอบบริษัทต่างๆ เพื่อเร่งผลักดันผู้อพยพออกนอกประเทศ
รายงานของ Washington Post ระบุว่า ICE ได้สั่งการไปยังสำนักงานภูมิภาคทั้ง 30 แห่งทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบเอกสารแสดงสถานะผู้อพยพของลูกจ้างจากนายจ้าง หรือ "I-9 audit" ที่มักเป็นขั้นตอนเบื้องต้น ก่อนการบุกค้นสถานที่ทำงาน และเป็นวิธีการจับกุมแรงงานผิดกฎหมายโดยไม่ต้องอาศัยหมายศาลด้วย