
4 มิถุนายน 2568 สโลแกน "ลูกค้าคือพระเจ้า" หรือ "ลูกค้าถูกเสมอ" ที่กระตุ้นให้พนักงานบริการ ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของ ไม่สามารถใช้ในญี่ปุ่นได้อีกต่อไป เมื่อมีการออกกฎหมายฉบับปรับปรุงใหม่ กำหนดให้บริษัททุกแห่งมีมาตรการป้องกันพฤติกรรมที่ก้าวร้าว หรือรุนแรงของลูกค้า เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้ ล้วนก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตและความเครียดในหมู่พนักงาน ซึ่งมีบางร้านถึงกับติดป้ายไม่ต้อนรับลูกค้าหยาบคาย
กฎหมายฉบับนี้ จะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2569 โดยเรียกร้องให้บริษัทต่างๆ และรัฐบาลท้องถิ่น กำหนดกฎระเบียบที่ชัดเจน เพื่อจัดการกับการละเมิด และสร้างระบบให้คำปรึกษาแก่ผู้ถูกกระทำ ซึ่งจะมีการออกแนวปฏิบัติที่ให้รายละเอียดเฉพาะเจาะจงต่อไป
สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า บริษัทที่ไม่สามารถทำตามเกณฑ์ที่กำหนด จะได้รับคำชี้แนะ และข้อเสนอแนะต่างๆ และถ้ายังไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ชื่อของบริษัทจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน
การแก้กฎหมายนี้ เกิดขึ้นหลังจากพบจำนวนพนักงานลาออก หรือล้มป่วยเพิ่มขึ้นด้วยสาเหตุการถูกคุกคามจากลูกค้า ที่เรียกว่า "คาสุ-ฮาระ" ซึ่งเป็นศัพท์สแลงญี่ปุ่นที่หมายถึงการคุกคามจากลูกค้า โดยผู้เชี่ยวชาญบางคน ระบุว่า วลีที่ว่า "ลูกค้าคือพระเจ้า" และวัฒนธรรมการต้อนรับที่มากเกินไป เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมหยิ่งยโสในญี่ปุ่น
กฎหมายใหม่ ได้นิยามการคุกคามจากลูกค้าไว้ว่า "คำพูดหรือการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้โดยทั่วไป และรบกวนสภาพแวดล้อมการทำงานของลูกจ้าง" นอกจากนี้ ในแง่ของการส่งเสริมทางเพศ กฎหมายฉบับนี้ ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในสถานที่ทำงาน ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ กำหนดนโยบายต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศนักศึกษาที่มาสัมภาษณ์งานด้วย
สโลแกน "ลูกค้าคือพระเจ้า" ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บุกเบิกธุรกิจค้าปลีกชาวอเมริกันหลายคนในช่วงเปลี่ยนศตวรรษใช้กัน ส่วนผู้บัญญัติสโลแกนนี้ตัวจริง น่าจะเป็น C?sar Ritz เจ้าของโรงแรมชาวสวิส เจ้าของโรงแรม Ritz ในปารีส และ Carlton ในลอนดอน ที่ใช้สโลแกนว่า "Le client n'a jamais tort" (ลูกค้าไม่เคยผิด) ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1890