APEC หนุนบทบาท WTO ฝ่าความท้าทายภาษีทรัมป์กระทบการค้าโลก

รัฐมนตรีการค้าจาก 21 เขตเศรษฐกิจของความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค (APEC) ออกแถลงการณ์ร่วมด้วยมติเอกฉันท์หลังเสร็จสิ้นการประชุมนาน 2 วันที่เกาะเชจูของเกาหลีใต้ในวันศุกร์ (16 พฤษภาคม) โดยระบุว่า ที่ประชุมตระหนักถึงความสำคัญขององค์การการค้าโลก หรือ WTO ในการผลักดันประเด็นการค้า และยอมรับว่า กฎข้อบังคับที่ผ่านการตกลงร่วมกันใน  WTO เป็นส่วนสำคัญของระบบการค้าโลก

นอกจากนี้แถลงการณ์ระบุว่า ที่ประชุมกังวลเกี่ยวกับความท้าทายที่ระบบการค้าโลกกำลังเผชิญ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้าของโลก ที่เกิดจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ

การปฏิรูป WTO เป็นวาระหลักของการประชุมครั้งนี้ ขณะมีความกังวลเกี่ยวกับบทบาทของ WTO ในการส่งเสริมการค้าเสรี ขณะกำลังเผชิญกับมาตรการกีดกันการค้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ

เอเปคเป็นเวทีการประชุมการค้าพหุภาคีครั้งใหญ่ครั้งแรก นับจากทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรในวงกว้างทั่วโลก ซึ่งเกินครึ่งของชาติสมาชิกเอเปคเผชิญภาษีของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากอัตราพื้นฐาน 10%

และเอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวียลา ผู้อำนวยการใหญ่ WTO ที่เข้าร่วมการประชุมเอเปคด้วย ยืนยันบทบาทขององค์กรในฐานะสถาบันที่จะส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางการค้าที่มีเสถียรภาพและคาดเดาได้

ขณะที่ชอง อิน-คโย รัฐมนตรีการค้าเกาหลีใต้ เปิดเผยด้วยว่า ในที่ประชุมไม่มีการหารืออย่างทางการเกี่ยวกับมาตรการร่วมกันเพื่อตอบสนองต่อกำแพงภาษีของสหรัฐฯ เพราะแต่ละประเทศมีสถานการณ์แตกต่างกัน

และที่ด้านนอกสถานที่จัดการประชุม มีผู้ประท้วงราว 20 คน ชุมนุมชูป้ายประท้วงเพื่อต่อต้านนโยบายภาษีของทรัมป์ และแสดงความไม่พอใจที่สหรัฐฯ ผลักดันภาระการขาดดุลการค้าและงบประมาณของตัวเองให้กับประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ผู้ชุมนุมยังคัดค้านการเจรจาใด ๆ ที่ยึดถือประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว

ขณะเดียวกันอัน ดัก-กึน รัฐมนตรีอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ เปิดเผยด้วยว่า เขาได้พูดคุยกับเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และโน้มน้าวให้สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีศุลกากรกับสินค้าของเกาหลีใต้ และคณะเจรจาของเกาหลีใต้จะไปสหรัฐฯ สัปดาห์หน้าเพื่อหารือประเด็นเทคนิคเพื่อเจรจาต่อรองเรื่องภาษี ที่จะมุ่งเน้นเรื่องมูลค่าการค้าที่สมดุลและกำแพงการค้าที่ใช่ภาษี และแม้สองฝ่ายหวังบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ภายในวันที่ 8 กรกฎาคมก่อนการระงับภาษี 90 วันจะครบกำหนด แต่เขายอมรับว่ามีความเป็นไปได้อาจไม่ทันกำหนดเส้นตายเพราะสถานการณ์การเมืองในประเทศ