
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร พลตรีหม่อง ชิตตู่ ผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA) หรือชื่อเดิม กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) กับลูกชาย 2 คน และกองกำลังติดอาวุธที่เขาเป็นผู้นำ จากการมีส่วนสนับสนุนการหลอกลวงทางไซเบอร์ หรือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์, ค้ามนุษย์ และลักลอบขนสินค้าข้ามพรมแดน
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า หม่อง ชิตตู่ อดีตขุนศึกที่เคยตัดสัมพันธ์กับกองทัพรัฐบาลเมียนมา ก่อนจะกลับมาจับมือกันใหม่ เป็นบุคคลสำคัญในเครือข่ายการหลอกลวงทางไซเบอร์ที่ผิดกฎหมายและทำกำไรมหาศาล โดยมีเป้าหมายเป็นชาวอเมริกัน
ตามรายงานของสหประชาชาติ ระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีผู้คนหลายแสนคนตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์โดยกลุ่มอาชญากรทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และถูกบังคับให้ทำงานในปฏิบัติการฉ้อโกงเหล่านี้
ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร จะนำไปสู่การอายัดทรัพย์สินของหม่อง ชิต ตู กับลูกชาย2 คน คือ หม่องทู เอ มู และ หม่อง จิต จิต พร้อมกับห้ามชาวอเมริกันติดต่อหรือทำธุรกรรมใดๆ กับบุคคลเหล่านี้ ความเคลื่อนไหวนี้ เกิดขึ้นหลังจากสหราชอาณาจักร กับสหภาพยุโรป ออกมาตรการคว่ำบาตรลงโทษหม่อง ชิตตู ไปก่อนหน้านี้
สำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า ไม่สามารถติดต่อหม่อง ชิตตู กับกองกำลังของเขา เพื่อขอความเห็นได้ ด้านกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า สำนักงานใหญ่ของ KNA ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษชเวก๊กโก บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ที่กลุ่มติดอาวุธเช่าพื้นที่และดูแลความปลอดภัยอยู่ตามคอมเพล็กซ์ต่างๆ ที่บรรดาเหยื่อค้ามนุษย์ถูกบังคับให้ทำงานในปฏิบัติการหลอกลวงทางออนไลน์
ไมเคิล ฟอล์กเอนเดอร์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ปฏิบัติการต้มตุ๋นทางไซเบอร์ ที่ดำเนินการโดย KNA สร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ ให้กับหัวหน้าแก๊งอาชญากรรมและพวกพ้อง ขณะที่เหยื่อสูญเสียเงินออมที่หามาอย่างยากลำบากและพรากความรู้สึกปลอดภัยของพวกเขาไป
ความเชื่อมโยงของหม่อง ชิตตู กับรัฐบาลทหารเมียนมา ยิ่งเสริมอำนาจของเขา โดยเห็นได้จากการที่เขาได้รับรางวัลผลงานดีเด่น ที่มอบโดยพลเอกอาวุโสมิน อ่องหล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2565
ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลทหารเมียนมาและแหล่งรายได้ของกองทัพหลายระลอก นับตั้งแต่ก่อรัฐประหาร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564ด้วยการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของนางออง ซาน ซูจี และจุดชนวนให้เกิดสงครามกลางเมือง ส่วนมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ ถือเป็นการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับเมียนมาครั้งแรก ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นับตั้งแต่เขากลับมาดำรงตำแหน่งในเดือนมกราคม
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เครือข่ายบังคับใช้กฎหมายอาชญากรรมทางการเงิน (Financial Crimes Enforcement Network) หรือ FinCEN ที่ถือเป็นหน่วยข่าวกรองทางการเงิน ที่สำคัญที่สุดภายใต้กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้เสนอให้คว่ำบาตรบริษัทการเงิน " Huione Group" ของกัมพูชา จากระบบการเงินของสหรัฐฯ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินจากการโจรกรรมทางไซเบอร์ และการหลอกลวงออนไลน์ด้วย