แอปเปิลคาดภาษีทรัมป์จ่อดันต้นทุนพุ่ง 900 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2
แอปเปิล ประเมินว่า การขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้ต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้น 900 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ เตรียมย้ายฐานการผลิตไอโฟนและอุปกรณ์อื่น ๆ ส่วนใหญ่ที่จะจำหน่ายในสหรัฐฯ ออกจากจีน
เมื่อวันพฤหัสบดี (1 พฤษภาคม) แอปเปิลเผยผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2568 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือนมีนาคม เติบโตกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดยระบุว่า มีรายได้ 95,400 ล้านดอลลาร์ ยอดขายเติบโตขึ้น 5% และกำไรพุ่งขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และยอดขายไอโฟน เพิ่มขึ้น 46,800 ล้านดอลลาร์ แต่ยอดขายในจีนตกลงเหลือ 16,000 ล้านดอลลาร์
แต่บริษัท ประเมินว่า การขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้บริษัทมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 900 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ แม้ว่าทรัมป์ตัดสินใจยกเว้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากการบังคับใช้ภาษีอัตราใหม่
สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีต่อสินค้าของจีนรวมสูงถึง 145% แต่ต่อมายกเว้นภาษี 125% สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของจีน โดยสินค้ากลุ่มนี้ยังต้องเสียภาษี 20% ที่ทรัมป์ประกาศบังคับใช้ก่อนหน้านี้
การเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้นของแอปเปิลตกลงเกือบ 4% เป็น 205 ดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังตลาดหุ้นปิดการซื้อขาย
ในวันเดียวกันทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล เปิดเผยว่า เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการขึ้นภาษีกับสินค้าจีน ไอโฟนส่วนใหญ่ที่จะจำหน่ายในสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเปลี่ยนไปผลิตในอินเดีย และเวียดนามจะเป็นแหล่งผลิตสำคัญสำหรับสินค้าอื่น ๆ อย่าง ไอแพด และแอปเปิล วอตช์ แต่จีนจะยังเป็นแหล่งผลิตหลักของสินค้าส่วนใหญ่จากทั้งหมดที่จำหน่ายนอกสหรัฐฯ
นอกจากนี้คุกคุยกับผู้ลงทุนเกี่ยวกับแผนในอนาคตของบริษัทว่าจะลงทุน 500,000 ล้านดอลลาร์ในบางรัฐของสหรัฐฯ ในช่วง 4 ปีข้างหน้า