บริษัทอิสราเอลแอบขายสปายแวร์ให้เมียนมา

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างเอกสารหลายฉบับว่า บริษัท Cognyte Software Ltd ของอิสราเอล ได้ชนะการประมูลและทำข้อตกลงซื้อขายสปายแวร์สอดส่อง (intercept spyware) ให้แก่การสื่อสารโทรคมนาคมและไปรษณีย์เมียนมา (Myanma Posts and Telecommunications) หรือ MPT ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภายใต้กระทรวงคมนาคมและการสื่อสารของเมียนมา เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2563 หรือก่อนเกิดรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 

ข้อตกลงถูกทำขึ้นแม้ว่าอิสราเอลจะอ้างว่า ยุติการถ่ายโอนเทคโนโลยีด้านการป้องกันประเทศให้แก่เมียนมา หลังการตัดสินของศาลสูงสุดอิสราเอลเมื่อปี 2560 ที่ห้ามไม่ให้อิสราเอลขายอาวุธให้เมียนมา ซึ่งอีไทย์ แม็ค ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนชื่อดังชาวอิสราเอล ที่เป็นหัวหอกในการรณรงค์เรียกร้องให้ศาลสูงสุดสืบสวนทางอาญาไปสู่ข้อตกลงที่เกิดขึ้น โดยกล่าวหา Cognyte, เจ้าหน้าที่กลาโหมและเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ ที่ดูแลข้อตกลงว่า ช่วยเหลือและสนับสนุนการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติในเมียนมา



 

นอกจากแม็คยังมีการยื่นคำฟ้องในนามของชาวอิสราเอลมากกว่า 60 คน รวมทั้งอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร, นักเคลื่อนไหว, นักวิชาการและนักเขียน ที่ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ส่วนเอกสารที่รอยเตอร์สได้รับมาจากกลุ่มนักเคลื่อนไหว Justice for Myanmar โดยเป็นจดหมายเมื่่อเดือนมกราคม ปี 2564 พร้อมเอกสารแนบจาก MPT  ถึงหน่วยงานกำกับดูแลท้องถิ่นที่ระบุให้ Cognyte เป็นผู้จำหน่ายที่ชนะการประมูลสำหรับเทคโนโลยีสอดส่อง และบันทึกว่าได้ออกใบสั่งซื้อแล้วเมื่อ "วันที่ 30 ธันวาคม ปี 2563"



เทคโนโลยีสอดส่องนี้ทำให้ทางการสามารถดักฟังโทรศัพท์ ดูข้อความ ดูกิจกรรมตามเว็บ รวมทั้งอีเมล และติดตามไปถึงตำแหน่งของผู้ใช้ โดยไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากบริษัทโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต