จีนทำฝนเทียม-ตัดไฟ สู้ภัยแล้งและคลื่นความร้อน

หลายมณฑลริมฝั่งแม่น้ำแยงซี พยายามทำฝนเทียมโดยส่งเครื่องบินโปรยสารเคมีบนท้องฟ้า เพื่อสร้างฝนเทียมให้ตกเหนือแม่น้ำแยงซี ที่มีระดับน้ำลดลงในหลายช่วงของแม่น้ำ แต่เนื่องจากมีเมฆก่อตัวบางเกินไปทำให้บางมณฑลต้องระงับปฏิบัติการไว้ก่อน ขณะที่มีรายงานว่ามณฑลหูเป่ยและบางมณฑลใช้วิธียิงจรวดเพื่อโปรยสารเคมีบนท้องฟ้าเพื่อทำฝนเทียม

กระทรวงทรัพยากรน้ำออกคำเตือนเมื่อวันพุธว่า ภัยแล้งทั่วบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำแยงซีส่งผลกระทบอย่างหนัก ทำให้เสี่ยงเกิดการขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับการบริโภคของประชาชนและปศุสัตว์ และการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร

มณฑลหูเป่ยเปิดเผยว่าประชาชนอย่างน้อย 4.2 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งมาตั้งแต่เดือน มิ.ย. โดยกว่า 150,000 คน ขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดและพื้นที่เพาะปลูกเกือบ 400,000 เฮกตาร์ ได้รับความเสียหายจากอากาศร้อนจัดและภัยแล้ง

นอกจากนี้กระทรวงทรัพยากรน้ำเปิดเผยว่า เขื่อนสามผาที่เป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในจีน เตรียมระบายน้ำ 500 ล้านลูกบาศก์เมตร ลงสู่พื้นที่ปลายน้ำในช่วง 10 วันข้างหน้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะเดียวกันหลายเมืองในภาคตะวันตกเฉียงใต้ต้องประกาศใช้มาตรการตัดไฟ หลังจากระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำที่ใช้ผลิตไฟฟ้าลดต่ำลงส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้า 

โรงงานหลายแห่งในมณฑลเสฉวนต้องปิดหรือลดการผลิต เนื่องจากทางการเสฉวนสั่งตัดไฟฟ้าแก่โรงงานทั้งหมดนาน 6 วันในสัปดาห์นี้ เพื่อบรรเทาการขาดแคลนไฟฟ้า จีนยังคงออกคำเตือนภัยคลื่นความร้อนระดับสีแดง ที่เป็นระดับสูงสุดในอย่างน้อย 138 เมืองและอำเภอทั่วประเทศ เมื่อวันพุธ และคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมจีนยาวนานที่สุดในรอบ 60 ปีแล้ว นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติ โดยครอบคลุมยาวนาน 64 วันจนถึงเมื่อวันจันทร์ 

นอกจากนี้คลื่นความร้อนครั้งนี้ยังมีความรุนแรงและปกคลุมในวงกว้างที่สุดอีกด้วย  โดยมีจำนวนเมืองและอำเภอที่มีอุณหภูมิสูงตั้งแต่ 40 องศาเซลเซียส ทำสถิติสูงสุดอีกด้วย โดยสถานีตรวจวัดสภาพอากาศ 262 แห่ง วัดอุณหภูมิได้ 40 องศาเซลเซียส และอีก 8 แห่ง วัดได้ 44 องศาเซลเซียส และพยากรณ์อากาศ คาดว่าอากาศจะยังมีอุณหภูมิสูงต่อไปในบริเวณลุ่มน้ำเสฉวน และพื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคกลางของจีนจนถึงวันที่ 26 ส.ค.