หุ้นของไชนา เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ร่วงลง 20% ปิดตลาดที่ 1.82 ดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ช่วงระยะเวลาผ่อนผัน 30 วันจากกำหนดชำระดอกเบี้ยตราสารหนี้ 82.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในวันที่ 6 พ.ย.จะสิ้นสุดในวันนี้ (6 ธ.ค.)
หุ้นดิ่งลงอย่างแรงหลังจากบริษัทออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ระบุว่า เจ้าหนี้ต้องการทวงหนี้ 260 ล้านดอลลาร์ และบริษัทอาจไม่มีเงินเพียงพอชำระหนี้ ส่งผลให้รัฐบาลท้องถิ่นมณฑลกวางตุ้งเรียกตัวนายฮุ่ย คา เอี๋ยน ประธานบริษัทเข้าพบ และทางมณฑลกวางตุ้ง ออกแถลงการณ์ว่า จะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยบริหารจัดการความเสี่ยง เสริมความแข็งแกร่งให้กับการควบคุมภายในบริษัท และรักษาการดำเนินงานให้เป็นปกติ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ภาครัฐเข้าแทรกแซงโดยตรงเพื่อบริหารจัดการบริษัทที่ใกล้ล้มละลายแบบนี้
ขณะเดียวกันธนาคารกลาง สำนักงานกำกับดูแลภาคธนาคารและประกันภัย และสำนักงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ ออกแถลงการณ์เช่นกันว่า ความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์จะสามารถควบคุมได้
นักวิเคราะห์ มองว่า การประสานความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐครั้งนี้ส่งสัญญาณว่า เอเวอร์แกรนด์อาจเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว