เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
12 ตุลาคม 2543 ขณะที่กำลังเติมเชื้อเพลิงอยู่ที่ท่าเรือเมืองเอเดนของเยเมน เรือ "ยูเอสเอส โคล" ซึ่งเป็นเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีของกองทัพเรือสหรัฐฯ ถูกผู้ก่อการร้ายพลีชีพกลุ่มอัลไกด้าโจมตี ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ขณะที่เรือก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เรือที่อยู่ภายใต้การบัญชาการของผู้การเรือ นาวาโท เคิร์ก ลิพโพลด์ ถูกโจมตีเมื่อเวลาประมาณ 11.18 น. เมื่อเรือไฟเบอร์กลาสขนาดเล็ก พร้อมด้วยระเบิดซีโฟร์และมือระเบิดพลีชีพ 2 คน ได้แล่นเข้ามาใกล้กับเรือจากทางท่าเรือ แล้วมันก็เกิดระเบิดขึ้น ก่อให้เกิดรูขนาดกว้างยาว 12 x 18 เมตรที่ตัวเรือ ด้านที่หันไปทางท่าเรือ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าวัตถุระเบิดที่นำมาใช้ น่าจะอยู่ที่ 180 - 320 กิโลกรัม จุดที่เกิดความเสียหายตรงกับจุดที่ลูกเรือของเรือกำลังเข้าแถวเพื่อรับอาหารกลางวันพอดี
งานนี้ทหารเรือสหรัฐฯ เสียชีวิต 17 นาย และบาดเจ็บ 37 นาย นับเป็นการโจมตีต่อเรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ ครั้งที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์การโจมตีเรือ "ยูเอสเอส สตาร์ก" ในช่วงสงครามอิรัก - อิหร่าน ปี 2530 เมื่อเครื่องบินเจ็ตธุรกิจ Dassault Falcon 50 ( ดัดแปลง ) ของอิรักลำหนึ่ง ยิงขีปนาวุธ เอ็กโซเซต์ AM-39 จำนวน 2 ลูกเข้าใส่เรือ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 37 นาย และบาดเจ็บอีก 21 นาย
ในการโจมตีเรือ "ยูเอสเอส โคล" กลุ่มอัลไกด้า ออกมาอ้างความรับผิดชอบ ซึ่งก่อนหน้านี้ พวกเขาก็เคยพยายามโจมตีเรือพิฆาต "ยูเอสเอส ซัลลิแวน" ที่ท่าเรือแห่งเดียวกันนี้ในเดือนมกราคม ปีเดียวกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการโจมตีรับปี 2000 แต่ปรากฏว่าเรือของพวกเขา ที่ขนระเบิดมาเต็มลำ เกิดรับน้ำหนักไม่ไหว จมลงเสียก่อน เลยไม่ได้โจมตี หลังจากนั้น พวกเขามาวางแผนกันใหม่ที่มาเลเซียสำหรับการโจมตีในเดือนตุลาคม
ในการพิจารณาคดี ผู้พิพากษาสหรัฐฯ ตัดสินให้ซูดาน เป็นฝ่ายรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว ในขณะที่ผู้พิพากษาอีกคนหนึ่งก็ได้มอบทรัพย์สินที่ถูกอายัติของซูดานมูลค่ากว่า 13 ล้านดอลลาร์ให้แก่ญาติของผู้ที่ถูกสังหาร ขณะที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ก็ได้ทบทวนกฎของการสู้รบเพื่อตอบสนองต่อการการโจมตีครั้งนี้
วันที่ 30 ตุลาคม 2563 ซูดานและสหรัฐอเมริกาได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อจ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวของลูกเรือที่เสียชีวิตจากการโจมตีเรือ โดยข้อตกลงมีผลบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564