20 มกราคม 2568 ปมร้อน "แสตมป์ อภิวัช" นายอภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข นักร้องดังออกมาเคลื่อนไหว ถึงกรณี “นิว จีริสุดา” ภรรยาถูกคุกคาม จนต้องพึ่งอำนาจศาลช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมาทำให้นักร้องชื่อดัง เลือกรับงาน หายหน้าหายตาไปจากคอนเสิร์ตต่างๆ เป็นเวลานานถึง 2 ปี
กระทั่งมีการเผยแพร่คลิป แสตมป์ ออกมาพูดถึงเรื่องราวต่าง ๆ บนเวทีคอนเสิร์ต "Wednesday Song" เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา อย่างละเอียด ความยาว 21.14 นาที ระบุว่า..
"หากมีเรื่องไม่ดีเกิดอะไรขึ้นกับตนและภรรยา ขอให้รู้เอาไว้ว่ามีศัตรูเพียงคนเดียว เอ่ยถึงถูกนายพล ซึ่งเป็นพ่อของคู่กรณีข่มขู่ ประกาศพร้อมสู้ ถ้ายิงมาก็ต้องสู้"
ทั้งนี้โลกโซเชียลได้มีความพยายามขุดถึงคู่กรณี หลายเพจมีการกล่าวหาว่าเป็น "ซาแซง" หรือ แฟนคลับที่คุกคามศิลปิน ขณะที่ "แก๊ป" แฟนหนุ่มของคู่กรณี ออกมาชี้แจงเปิดข้อมูลตรงกันข้าม เหมือนเป็นหนังคนละม้วน รวมทั้ง "พี่ป้อง" เพื่อนของแสตมป์ได้ออกมาเปิดเผยแชทสารตั้งต้น ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด "แก๊ป" แฟนหนุ่มของแจม ซึ่งทำหน้าที่ซาวด์เอ็นจิเนียร์ ให้วง “Tilly Birds” มาร่วมพูดคุยกับ "หนุ่ม กรรชัย" ในรายการโหนกระแส เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น
"แก๊ป" เล่าว่าเขามีอายุอ่อนกว่า "แจม" 2 ปี จึงเรียกว่า "พี่แจม" พร้อมเปิดไทม์ไลน์การคบหากับ แจม เริ่มเมื่อปี 2564 และรู้มาก่อนหน้านั้นว่า แจมเป็นแฟนคลับของแสตมป์ มาตั้งแต่ปี 2553 ไม่ว่าศิลปินคนนี้ ไปเล่นที่ไหนถ้าเป็นไปได้เขาจะตามไปดู เป็นการชื่นชอบมากๆ ยืนยันว่าไม่ได้คบหากับแสตมป์
ส่วนเรื่องที่บานปลายจนถึงวันนี้ได้อย่างไรนั้น แก๊ป บอกในรายการว่า น่าจะเป็นจากฝ่ายคู่กรณี เข้าใจว่าแจมเป็นชู้กับสามีของเขา ฝั่งตนเองก็มั่นใจมากๆว่าพี่แจมไม่ได้มีอะไรแบบนั้น เชื่อในสิ่งที่เจอ ที่รู้จักเขา ก่อนที่ฝั่งโน้นจะทักเข้ามา แบบจริงๆจังๆด้วยซ้ำ
แก๊ป กล่าวอีกว่า เท่าที่รู้ แสตมป์ เป็นคนทักมาในอนสตาแกรมของแจม ก่อนจะมีการไปคุยในไลน์ ถึงขั้นชวนไปทำงาน ซึ่งจริงๆชวนตนไปก่อนด้วย แต่เห็นว่าที่นั่นมีคนของเขาอยู่แล้วจึงปฏิเสธไป ซึ่งต่อมาเห็นจากแชตที่แสตมป์พิมพ์หาแจม มันเริ่มจะเกินเลย แต่มันไม่ได้เกินเลยในทางนั้น ไม่ได้มีการคุยกันแบบในลักษณะแฟน แบบที่ฝั่งแสตมป์กล่าวถึง โดยแจม เข้าไปทำงานเป็นสไตลิสต์ ดูแลเสื้อผ้าให้กับแสตมป์ ไม่ได้มีอะไรเกินเลย
"แม้ว่า แสตมป์ จะบอกว่าเขาคบกับแจม แต่ผมเชื่อคนของผมว่าไม่มีอะไรเกินเลย จริงๆก็มีความสงสัยเหมือนกัน ผมทะเลาะกับเขาเรื่องนี้น่าจะเกิน 50 รอบ จนผมมั่นใจว่าไม่ใช่ แจมคงพูดความจริง พูดความจริงแน่ๆ ผมมั่นใจมากๆ แสตมป์ตามตื๊อแจมมาตลอด เรารู้ที่หลังว่าเขาพยายามจะจีบแจม" แก๊ป ระบุ
ในช่วงท้ายรายการ "หนุ่ม กรรชัย" ได้ขอให้ "แก๊ป" ต่อสายถึง "แจม" เพื่อขอถามถึงความสัมพันธ์ ซึ่งทางแจม ได้ยืนยันด้วยตัวเองว่าไม่เคยคบหากับแสตมป์
"แจม" กล่าวยืนยันว่า ไม่เคยคบหาแบบชู้สาว เรื่องนี้มันจบไปนานแล้วค่ะ ในชั้นศาลก็จบไปแล้วด้วย ก็ตอบได้แค่นี้ เป็นไปตามคำสั่งศาลที่ระบุไว้ว่าห้ามนำไปพูดต่อ หรือเผยแพร่ข้อมูลใดใด ก็ต้องให้ให้เกียรติอีกฝั่งด้วย ทางหนูกับทางแก๊ปเอง ก็อยากแยกย้ายจริงๆแล้ว
ส่วนประเด็น ที่นั่งติดกันบนเครื่องบินนั้น แจม อธิบายว่า กดจองผ่านแอปฯ ถ้าเกิดว่ามันเป็นการดีลกับใครสักคนนึงไว้ ไม่ใช่หน้าที่ของตนที่เป็นคนมาหาว่าคนนั้นเป็นใคร ต้องเป็นฝ่ายคู่กรณี ยืนยันว่าไม่เคยไปคุกคาม
ในส่วนเรื่องของคุณพ่อที่ถูกพาดพิงนั้น แจมบอกว่า ต้องให้ทางคุณพ่อชี้แจง การที่จะไปคุกคามถึงบ้านคิดว่าไม่จริง ไม่มีการคุกคามที่บ้านแน่นอน ส่วนเรื่อง 112 ไม่มีการข่มขู่เรื่องนี้แน่นอน
แจม ยังตอบคำถามกรณี แสตมป์ ออกมายืนยันเรื่องคบหากันว่า ไม่ทราบเจตนาของเขา ทางตนก็ไม่เคยพูดถึงหรือแสดงอะไรกับเขาเหมือนกัน ในสิ่งที่เขาพูดกับใครอะไรยังไง อันนี้ก็ต้องไปถามเค้าดู หนูรู้จักกับพี่ป้อง (เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้) ในส่วนที่พี่ป้องทราบ ก็ต้องถามพี่ป้องว่าคำว่า แฟน พี่ป้องได้รับข้อมูลนี้มาจากใคร ซึ่งแสตมป์เป็นคนทักมาหาจริง แต่ถ้าถามว่าตามจีบหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้
ส่วนการตกลงยอมจ่าย 1 ล้านบาทนั้น แจม บอกว่า ถ้าจ่ายแล้วมันแยกย้ายจากกันไปได้แล้วไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวต่อกันอีก ก็ยินดีจ่าย หนูก็โอเคที่จะจ่ายไป จ่ายเพื่อให้จบความรำคาญที่เกิดขึ้นในชีวิต
"แสตมป์ อภิวัชร์" กล่าวว่า ต้องขอโทษอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ที่วันนั้นขึ้นไปบนเวที แล้วพูดไม่ครบทุกประเด็น ซ่อนประเด็นที่มีปัญหาเอาไว้ว่า ตนได้นอกใจภรรยาจริงๆ แต่พูดเฉพาะสิ่งที่ภรรยาตนถูกกระทำออกไปเท่านั้น ก็ขอโทษทุกคนด้วย พูดกี่ทีก็ยังผิด และยอมรับความผิดนี้
ก่อนหน้านี้ขอโทษภรรยา เรื่องที่ตนนอกใจไปคบหากับแจม ตนยอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ และตอนนี้มันผ่านมาปีกว่าแล้ว เราก็กลับมาทำความ เข้าใจกัน และก็เดินหน้าต่อ
ทั้งนี้เหตุผลที่ไปพูดบนเวที ทั้งๆที่อยากจบเรื่องนี้ "แสตมป์" บอกว่า เรื่องมันเริ่มต้นจากศาล เมื่อแจมออกจากศาลเยาวชนและครอบครัวไป ได้สัญญากับนิวว่าจะไปแก้ไขความเข้าใจผิดให้ว่า เขาเป็นชู้กับตนจริง เพราะแจมโกหกว่าตนเองไปตามจีบ แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะตนคบหากับแจมจริงๆ และมีความสัมพันธ์กันจริงๆ ทำให้เป็นชู้กับตน ทำให้ความชุลมุนวุ่นวายหลังเวทีไม่จบ เพราะมันมีเรื่องการคุกคาม แต่จริงๆ แล้วก็อยากให้แจมยืนยันด้วยตัวเอง และเงิน 1 ล้านบาท ไม่ใช่ประเด็น
“ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่แจมไม่ยอมรับว่าเคยคบหากับผม ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่านิวเป็นคนบ้า ผมถึงต้องออกมา ขอบอกต่อหน้าภรรยาตอนนี้และต่อหน้าคน 60 ล้านคน ผมเสียแทบจะยืนในแผ่นดินนี้ไม่ได้แล้วว่า ผมคบหากับเค้าจริง”
แสตมป์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่แก๊ป เล่ามามันตรงข้ามกับสิ่งที่เราเจอ มันเป็นหนังคนละม้วนกัน ที่พูดบนเวทีก็ไม่อยากจะเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะชน แค่อยากพูดไปว่า นิวชนะคดี และทุกคนอย่าไปเชื่อแจม แต่สุดท้ายมันก็ทำให้ตนพัง แต่ก็ไม่เป็นไร ตนขอพิสูจน์ให้นิวเข้าใจ
ขณะที่ "นิว" ได้ชี้แจงกรณีพูดว่าชนะคดี แต่ยังไม่ได้มีการสืบพยานกัน มีการไกล่เกลี่ยกันก่อน จะบอกว่าชนะคดี อาจจะไม่ได้ ว่า เรื่องราวเกิดขึ้นวันสืบพยาน พอมาถึงแล้วทางแจมแทบไม่สู้อะไรเลย ศาลท่านก็ถามว่าแจมติดอะไรหรือเปล่า ทำไมต้องการสู้ เขาก็บอกว่าเขาไม่มี 10 ล้านบาท ตอนแรกแจมรอในรถ ให้คุณพ่อออกมาคุยคนเดียวก่อน ก็บอกว่าถ้าติดเรื่องนี้เราก็มาคุยกันได้ แต่ขออย่างเดียว ขอให้พูดความจริงได้ไหม เพราะว่าเวลาตนไปทำงาน มันอันตราย เพราะตนต้องใช้บอดี้การ์ด 2 คนในการดูแลตลอดเวลา ทั้งหมดที่พูดนี้ เป็นการพูดต่อหน้าศาล มีพยานนั่งอยู่ในห้อง มีทนายนั่งอยู่ในห้อง
เมื่อถามว่า แล้วทำไมแก๊ปได้รับข้อความมาอีกแบบนึง นิว กล่าวว่า แก็ปไม่ได้อยู่ในศาลในคดีชู้วันสืบพยาน แก๊ปไม่ได้มา ซึ่งตนยอมลดให้จาก 10 ล้านบาท เหลือ 1 ล้านบาท แต่มีข้อแม้ว่าแจมต้องออกไปพูดความจริงว่าเคยคบกับ แสตมป์ และตนเองก็ฟ้องถูกต้องตามกฎหมาย
แสตมป์ ยังได้ยอมรับผ่านรายการด้วยว่า เรื่องทั้งหมดเกิดจากเขา ถ้าไม่ติดกระดุมเม็ดแรกผิด ปัญหานี้ก็จะไม่เกิด ทุกคนก็จะมีความสุข ต้องขอโทษทุกคนด้วย
เมื่อถามถึงเรื่องไฟลท์บินที่แสตมป์นั่งข้างกันกับแจม นั้น แสตมป์ อธิบายเพิ่มเติมว่า มีการมานั่งข้างๆ แต่มีการเว้นที่นั่งไว้ 1 คน แล้วสืบทราบมาจากพี่คนนึงว่าเพื่อนของแจมสามารถจองที่นั่งสายการบินได้ ซึ่งประเด็นวันนั้นเกิดขึ้นก่อนที่ตนจะคบกับแจม เรื่องที่ตนเล่าในงานคอนเสิร์ตต้องยอมรับว่า นำเรื่องชู้สาวออก แต่พยายามจะเล่าว่าเขาเข้าถึงตัวของตนได้อย่างไร และได้อย่างนี้เสมอ เลยทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัย
ส่วนที่เอาแจมไปเป็นสไตลิสต์นั้น แสตมป์ กล่าวว่า ก่อนอื่นแจมไม่ใช่สไตลิสต์ เขาเป็นชู้กับตน และเสื้อผ้าก็ใช้ของที่บ้าน ไม่เคยไปซื้อที่ไหน เมื่อถามว่าแสตมป์ อุปโหลกขึ้นมาให้แจมเป็นสไตลิสต์ เพื่อให้นิวตายใจใช่หรือไม่ แสตมป์ อภิวัชร์ หันไปกล่าวกับนิวว่า “ขอโทษนะนิว ใช่ครับ”
ส่วนที่มีข้อความเขียนว่าว่าดีลให้แจมซื้อเสื้อผ้านั้น เกิดหลังจากที่นิวระแคะระคายเรื่องนี้แล้ว และตนก็พยามที่จะไม่ให้เขาเข้ามาทำเป็นสไตลิสต์ แต่แจมก็อยากเข้ามาทำให้ได้ และเขาต้องการเอาหลักฐานการเป็นสไตลิสต์ไปใช้ในศาลต่อไป
แสตมป์ พูดถึงการถอนฟ้อง คดีแพ่งและอาญาที่เขาเป็นโจทก์ เพราะมีเรื่องของมาตรา 112 มากดดัน กลัวจะเข้าคุก ส่วนคดีชู้ ก็ถูกเอาเรื่องนี้มาขู่ด้วยเหมือนกัน แต่นิวไม่ยอม เพราะนิวเป็นโจทก์
"หนุ่ม กรรชัย" ได้ถามถึงข้อยุติ เรื่องนี้จะจบลงลงอย่างไร ซึ่ง นิว กล่าวว่า เราอยากแค่ให้แก๊ปอยู่ในโลกของความเป็นจริง ตอนนี้ก็ไม่เป็นอะไร ขอแค่ว่าเราไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว
ขณะที่ แสตมป์ อภิวัชร์ บอกว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาแก็ปดันแปะคำฟ้องของนิวไป ซึ่งทำให้คนทั้งประเทศเห็นหมดแล้วว่าเรื่องจริงคืออะไร ตนก็โอเคแล้วว่าทุกคนในโลกนี้เห็นแล้วว่ามันคืออะไร เพราะตอนแรกนิวจะทำเพลงต่อ แต่เขาไม่สามารถคอนแน็คกับใครได้ เพราะถูกมองว่าเป็นคนบ้าที่ไปฟ้องแจม ซึ่งวันนี้ก็อยากบอกว่ามีการคบกันจริงๆ และตนติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรกจริงๆ
ทั้งนี้ แสตมป์ กล่าวยังได้เปิดไทม์ไลน์ที่เริ่มคบกันนั้นคือช่วงปี 2020 ที่เริ่มพูดคุยกันซึ่งไม่ตรงกับไทม์ไลน์ของแก๊ป เรื่องการขึ้นเครื่องบินนั่งข้างการเกิดขึ้นในปี 2019 ส่วนที่เคยทักคุยกันในดีเอ็มคือปี 2020 แต่มาคุยกันจริงจังในปี 2022
เมื่อถามว่า มีหลักฐานที่คบกับแจมจริงๆ หรือไม่ แสตมป์ อภิวัชร์ กล่าวว่า นิวมี 500 หน้า ที่เป็นหลักฐานแชต และรูปที่พูดคุยกันในเชิงชู้สาว แล้วตนต้องมาบอกว่าตนเป็นชู้กับคนอื่น เพื่อทำทำลายชื่อเสียงของตนเองไปเรื่อยๆ ทำไม เพราะตนยอมแลก ขอให้เลิก และขอให้นิวได้ใช้ชีวิตแบบที่คนไม่ต้องมองเขาแบบไม่ดีแล้ว
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าช่วงหนึ่งเคยหลงแจม เคยคิดไม่ดีกับนิว ได้พิมพ์ออกไปจริงๆ ในช่วงเวลาหนึ่งที่พี่ป้อง ออกมาโพสต์ ยอมรับว่าพูดแบบนั้นจริงๆ แต่ตอนนี้กลับมาทำความเข้าใจกับนิวใหม่แล้ว ต้องทำให้ดี จึงต้องไปเคลียร์กับแจม ต้องเอาตัวเข้าแลก เพื่อเคลียร์ว่า "นิวคือผู้บริสุทธิ์"
ขอบคุณข้อมูล : รายการโหนกระแส