svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

"เสือ เสฏกานต์" เผยความในใจ กดดันแค่ไหนเป็นลูกชาย "เสก โลโซ"

สองพ่อลูก "เสก โลโซ" และ “เสือ เสฏกานต์" ช่วงนี้เดินสายพูดคุยถึงคอนเสิร์ตใหญ่ 28 ปี LOSO We Are The Rock And Roll Concert ล่าสุดควงคู่กันมาเปิดใจถึงประเด็นดราม่าพ่อ-ลูกแบบหมดเปลือก

โดยทั้งคู่ได้เปิดใจผ่านทางรายการ Woody FM "เสือ เสฏกานต์" เล่าถึงชีวิตในวัยเด็กที่รู้ว่ามีพ่อเป็น "เสก โลโซ"

เสือ เสฏกานต์ : "ตอนเล็ก ๆ ผมไม่ค่อยได้เจอพ่อเจอแม่ ผมโตมากับคุณยายคุณตา คุณพ่อไปทัวร์บ่อยไปต่างจังหวัด ไปต่างประเทศบ่อย ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไรตั้งแต่เด็กก็เลยไม่ได้สนิทอะไรกันมาก ซึ่งมันเป็นอะไรที่เก็บมาตั้งแต่เด็กครับ เรื่องการที่เรามีความห่างกันนิดนึง พอโตมาประถมเริ่มเข้าใจแล้วว่าพ่อทำงานอะไร พ่อเป็นใคร ไปเล่นคอนเสิร์ตให้คนดูเยอะมาก ช่วงนั้นก็ได้ไปดูคอนเสิร์ตพ่อบ้าง ได้ไปทัวร์ต่างประเทศด้วย ไปยุโรป ไปอเมริกา ได้ไปกับพ่อเกือบทุกงาน คือตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่านี่ก็คือชีวิตเด็กธรรมดาแบบนี้หรือเปล่า แต่ว่าจริง ๆ แล้วมันต่างจากชีวิตคนอื่นมากเลย พอเราโตมาเรื่อย ๆ ก็เห็นว่าอะไรเป็นอะไร งานเป็นยังไง ครอบครัวเป็นยังไง ที่โรงเรียนเพื่อน ๆ คุณครูก็ไม่มีใครมาคุยอะไรที่ทำให้ผมกังวลใจ ผมว่าเขาคงรู้ว่าต้องมีการเว้นพื้นที่กันในการคุยเรื่องครอบครัวด้วยที่พ่อเป็น เสก โลโซ แต่พอโตมาเจอข่าวมันก็มีการเครียด กังวล เป็นห่วงครอบครัว เป็นห่วงพ่อแม่เป็นห่วงน้องด้วย ก็อดทนมาตลอดรู้ว่าครอบครัวก็อดทนมาตลอด สู้มาตลอด ผ่านปัญหาด้วยกันมาตลอด ก็รู้สึกดีมากที่มาถึงจุดนี้ได้"

 

เสือ เสฏกานต์ เผยความในใจ กดดันแค่ไหนเป็นลูกชาย เสก โลโซ

ทางด้าน "เสก โลโซ" ก็ผ่านเรื่องราวอะไรมามากมาย เจ้าตัวเปิดใจว่า 

"เป็น 10 ปีที่หนักหน่วงมาก คือชีวิตร็อกสตาร์ ถ้าเป็นร็อกสตาร์จริง ๆ มันก็คล้าย ๆ กัน มีทั้งผู้หญิง มีทั้งยาเสพติด มีทั้งชื่อเสียงเข้ามาทั้งดีทั้งร้าย ก็ผ่านมาหมดแล้ว ก็บอกตัวเองว่าเราเข้มแข็งพอที่จะเอาชนะมันได้ ซึ่งทุกวันนี้สะอาดมาก ดื่มเหล้าอย่างเดียว นอกนั้นไม่มีอะไรเลย บุหรี่ก็เลิกสูบ ไม่รู้เลิกสูบได้ไงก็ไม่รู้ เลิกสูบซิการ์หมดเลย เลิกมาน่าจะ 2 ปีได้แล้ว คือต้องเลิกให้กับครอบครัว แล้วต้องกลับมาเป็นพ่อที่ดี ผมผ่านการเป็นพ่อที่แย่มาก่อน ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองต้องทำอะไรเกี่ยวกับดนตรี ดนตรีอย่างเดียวที่จะนำเงินทองเข้ามา แล้วส่งเสียลูกเรียนได้ พออยู่มาวันนึงเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว ผมแต่งงานกับคุณกานต์ 3 รอบแล้วนะ แต่งแล้วก็หย่า แต่งแล้วก็หย่า คิดดูสิไม่มีใครเป็นนะ อาจจะเป็นคู่แรกของโลกก็ได้ (หัวเราะ) แล้วก็มีความรู้สึกว่าตัวเองแย่มากพอมองกลับไป ในวันนี้รู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็งขึ้นที่เลิกทุกอย่างได้ แล้วก็มาเป็นพ่อที่เรียกว่าได้ดูลูกบ้าง เพราะปกติเขาต่อสู้มาด้วยตัวเอง ผมภูมิใจในความเป็นเสือมาก ที่เขามาเป็นนักร้องอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นแร็ปเปอร์" 

 

เสือ เสฏกานต์ เผยความในใจ กดดันแค่ไหนเป็นลูกชาย เสก โลโซ

มีความกดดันคาดหวังมั้ย เกิดเป็นลูกของ "เสก โลโซ" ?

เสือ เสฏกานต์ : "มีคนถามบ่อยนะครับว่าเป็นเสือในตอนนี้รู้สึกกดดันมั้ย ผมกับพ่อคือเป็นพ่อลูกกัน แต่ไม่ใช่คนเดียวกัน แนวเพลงก็ต่างกัน ความชอบไม่เหมือนกัน ผมชอบหลายแนว ร็อก ป๊อป แร็พ แต่ที่ชอบจริง ๆ คืออยากทำเพลงแร็พ การที่ผมมาทำต่างจากพ่อ มันก็คือพาร์ทของมายเซ็ทหนึ่งที่คิดว่าไม่ต้องกังวลว่าจะมีความกดดันอะไร เราไม่ได้ทำเพลงแนวแบบพ่อ ไม่ได้มีคาแร็คเตอร์มีลุคที่เหมือนพ่อ เราเป็นตัวของตัวเอง บางทีผมเห็นคนมาบอกว่า ไม่เก่งเท่าพ่อเลย ไม่เห็นได้อะไรจากพ่อ ซึ่งผมโอเคเข้าใจ ไม่ได้เก็บไปคิดอะไร เพราะผมไม่ได้มีความหวังที่จะเหมือนพ่อที่จะเก่งเท่าพ่อ พ่อเป็นตำนานของไทย ของเอเชียเลยก็ได้ King Of Rock And Roll ความคิดของผมคืออยากจะทำเพลงให้ดี อยากทำเพลงให้คนได้ฟัง ได้มีแรงบันดาลใจจากเพลง ผมไม่ได้มีความคิดที่อยากจะเป็นตำนานแบบพ่อ แค่อยากทำเพลงที่ผมชอบในแนวของตัวเอง ไม่ต้องกังวลว่าใครจะคิดอะไร"

 

เสือ เสฏกานต์ เผยความในใจ กดดันแค่ไหนเป็นลูกชาย เสก โลโซ