“ดีเจมะตูม” โดนตราหน้าชอบตีสนิท เคยเสียเงินเฉียดล้านเพราะเที่ยวบาร์โฮสต์

ต้องบอกว่ามีดราม่าให้ตามอยู่ตลอดๆ สำหรับ ดีเจมะตูม เตชินท์ พลอยเพชร  หลังจากชีวิตฝ่ามรสุมครั้งใหญ่ชีวิตก็เปลี่ยนเป็นดีขึ้นโดยเจ้าตัวยอมรับความผิดพลาดของตัวไม่โทษใคร ล่าสุดออกมาเปิดใจเล่าหลังชาวบ้านชาวช่องเขาตีตราว่า ดีเจมะตูม สนิทกับคนเยอะไปทั่วจนโดนด่าว่า สตรอเบอรี  งานนี้เจ้าตัวตอบชัดเพราะเป็นนิสัยสนุกสนาน เลยเข้ากับคนง่าย พร้อมแชร์ประสบการณ์และเตือนสตินักเที่ยวบาร์โฮสต์

เขาบอกว่าเราชอบตีสนิทกับคนดัง?

คือเรื่องของการตีสนิทดาราเป็นหัวข้อข่าว แล้วมาเป็นฉายาตั้งแต่แรกๆ เพราะว่าเดี๋ยวไปอยู่กับแก๊งดารานี้ เดี๋ยวก็ไปอยู่กับนางเอกคนนั้น ดูคบกับคนได้หมด ดูไม่จริงใจ ตอแหล ใช้คำนี้เลยนะ อีมะตูมคบไม่ได้ กูก็ไม่เข้าใจว่าดาราพวกนั้นมาคบกูกันจังว่ะ กูโดนด่า แล้วโดนอยู่คนเดียว สมมุติว่าเราไปเที่ยวด้วยกัน หนูเป็นดาราตัวแม่ เป็นนางเอก เราไปเที่ยวด้วยกันถ่าย 3 คน ลงรูปเดียวกัน พอเป็นชมพูก็จะมีคนคอมเมนต์ พี่ชมพูสวยจังเลย ชุดนี้น่ารัก แต่ไม่ชอบคนกลางเลย ส่วนพี่พลอยหวานจังเลย ติดตามมาตั้งแต่ประกวดแล้วนะ แต่จะดีมากเลย ถ้ารูปนี้ไม่มีคนข้างๆ ส่วนของกู ไปทำไม ไปเกาะเขาทั้งคู่ ทั้งที่เป็นรูปเดียวกัน สมัครใจกันถ่ายลงพร้อมกัน เพราะฉะนั้นถึงบอกว่า มันไม่ใช่ เพราะพี่เป็นคนที่ดูตีสนิท หรือเข้ากับคนง่าย แต่เป็นเพราะว่า Position ของพี่มันมาจากข้างล่าง พี่มาจาก DJ Camfrog ไง แล้ววันนึงมาประกบตัวใหญ่ ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี เขาแค่รู้สึกว่าอันนี้มันข้ามสเตป ทำไมมันไวจังเลย เข้ามาแพล็บเดียว รู้จักคนเยอะ ส่วนตัวพี่มองวงการบันเทิงเป็น Business ฯลฯ

ตอนนี้ยังเที่ยวกลางคืนไหมคะ?

ตอนนี้หยุดเป็นศูนย์ไปเลย ไม่มีการเที่ยวกลางคืนอีกเลย จะออกจากบ้านก็ต่อเมื่อได้ผลประโยชน์ได้งาน ได้ธุรกิจเท่านั้นถึงจะออก มันอิ่มตัวด้วยแหละ มันเหมือนแบบเจอมาหมดแล้ว เที่ยวมาหมดแล้วคือพี่เสียดายด้วยนะ ตอนที่พี่เที่ยวบาร์โฮสต์หนักๆ พี่หอมไม่เอาเลย เพราะพี่หอมมีแฟน วันนี้กูล้างมือในอ่างทองคำ หอมเปิดบาร์โฮสต์ มันคนละแก๊ปเลย มันก็เลยทำให้เราหลุดวงโคจรจากการเที่ยวกลางคืนอย่างชัดเจนมากๆ

อยากรู้การเที่ยวโฮสต์อย่างไร ให้คุ้มที่สุด?

การเที่ยวโฮสต์ มันไม่มีไม่คุ้มหรอก มันอยู่ที่ว่าเรารู้สึกสุข ไม่สุขกับมัน คนบางคนบอกว่ามึงบ้าหรือเปล่าทำงานมาทั้งเดือน อยู่ๆไปสู้เขาเลย 10-20 ดื่ม หมดไปหมื่นนึง มึงไม่เสียดายเงินเหรอ เขาไม่ได้สู้เพื่อให้เด็กคนนั้นได้ดีเว้ย เขาสู้เพราะใจเขาสุขมาเติมเต็มเขา มันคือการบำบัดเยียวยาตัวเอง มันไม่มีวิธีการเที่ยวให้คุ้มหรอก ถ้าคุณรู้สึกไม่ชอบ คุณจะรู้สึกมันไม่คุ้ม แต่ถ้าคุณชอบ เป็นล้านคุณก็โอน พี่บอกเลยนะถ้าเที่ยวบาร์โฮสต์แบบมีสติจะไม่เสียเยอะ พี่หอมคือคนที่เที่ยวแบบมีสติ

แต่พี่ กูต้องชนะ ไม่รู้หรอกนะโฮสต์หล่อไม่หล่อ ดังไม่ดัง ดีไม่ดี รู้แค่ว่าถ้าใครต้องการมันกูต้องเป็นคนที่ได้มันมา ซึ่งถ้าคุณมี Mindset แบบนี้ จำไว้นะเจ๊ง เสียเป็นแสนแขนไม่ได้จับ พี่ไม่ได้จับด้วย ไม่ได้นั่งด้วย พี่ต้องเอามาเพราะชะนีจีนข้างๆ มันมองเหยียด เรื่องของเรื่องมีชะนีจีนสวยมาก คือไม่ได้คิดจะไปสู้อะไรหรอก แต่วันนั้น บนเวทีคนหล่อๆถูกเลือกไปหมด จะคนเหลือคนอยู่บนเวทีอยู่ หนึ่งในนั้น ถามว่าหล่อไหม ก็หล่อ ดูดี สูง ขาว ตี๋ ที่มีอยู่คนเดียว ตอนนั้นก็ลองสู้ไปสัก 10 ไหม ถ้าไม่ได้ไม่ซีเรียส ชะนีข้างๆพอเห็นพี่บอก 10 ดื่ม หันมามอง แล้วถอนหายใจ แล้วบอก 50 ดื่ม จริงๆวันนั้นความร้ายของฉันมันเริ่มต้นจากการที่มึงถอนหายใจ ถ้าไม่ถอนหายใจคงไม่ถึงจุดนั้น  สำหรับพี่ตอนนั้นที่เห็นถอนหายใจใส่ หมายถึงว่า คิดว่าจะแน่ แค่ 10 ดื่มเองเหรอ มึง 50 ดื่ม เหรอ กู 100 ดื่ม คิดว่า 100 ดื่มไม่สู้เหรอ สู้  150 ดื่ม ไปจนถึง 360 ดื่ม แล้วเพื่อนที่ไปด้วยคือบอก มึงเป็นกู กูไม่ยอม แล้วแรงมากตรงที่มันบอกว่าอีตูมแรงมาก แล้วคนทั้งร้านรู้จักมึง ตูมอายมาก เอางี้ เดี๋ยวกูช่วยออกครึ่งนึง กูก็แบบได้แม่ จบไป 500 ดื่ม ฉันชนะ เด็กคนนั้นได้ 150,000 บาท สักพักครบชั่วโมง เด็กก็ขึ้นเวทีไปใหม่ เริ่มใหม่ฯลฯ

ที่มารายการ “ร้ายได้อีก”