
หลังจากแจ้งข่าวเศร้ากับการจากไปของ "เพชร โอสถานุเคราะห์" เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ทั้งนี้ทางครอบครัวได้เผยกำหนดการ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และ พิธีสวดพระอภิธรรม "เพชร โอสถานุเคราะห์" จัดขึ้นที่ ศาลาพีชานนท์ วัดธาตุทอง พระอารามหลวง แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร มีพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรมคืนแรกวันที่ 17 สิงหาคม 2566 และในวันที่ 23 สิงหาคม 2566มีพิธีสวดพระอภิธรรม และประกอบพิธีบรรจุศพ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 “เพชร โอสถานุเคราะห์” ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก นับว่าโพสต์นี้เป็นโพสต์สุดท้ายก่อนที่เขาจะเสียชีวิต โดยโพสต์ดังกล่าว ระบุข้อความว่า.....ความเข้าใจผิดของผู้ปฏิบัติธรรม คือการอยากมีสติตื่นได้นานๆ ซึ่งไม่จำเป็นเพราะชีวิตมีเพียงปัจจุบันขณะเท่านั้น อนาคตไม่มีจริงนอกจากในความคิด ดังนั้น เราจึงมีสติแค่ในขณะนี้ก็พอ และเมื่อรู้ตัวว่าขาดสติ ก็กลับมามีสติใหม่ การรู้ตัวว่าขาดสติ แปลว่าสติได้กลับมาแล้ว ทำบ่อยๆ แบบนี้สติจะตื่นขึ้นจนเป็นสภาวะปกติในชีวิตประจำวันเอง
ไม่ต้องตั้งเป้าที่จะหลุดพ้นหรือบรรลุธรรมใดๆ เพราะการอยากหลุดพ้นหรือบรรลุธรรม ก็คือความคิดหรือกิเลสรูปแบบหนึ่งนั่นเอง และการที่คุณคิดว่าการมีสติมันเป็นเรื่องในอุดมคตินั่นแหละ คือการเข้าใจผิด ธรรมมีประโยชน์สำหรับมนุษย์ทุกคนที่วนเวียนอยู่ในกรรมและความทุกข์ ไม่ใช่แค่สำหรับพระสงฆ์องค์เจ้า สติ หรือ ธรรม คือเรื่องธรรมดา คือเส้นผมบังภูเขาที่มีและเกิดขึ้นได้ทุกขณะ
เมื่อเราก้าวออกจากขบวนรถไฟแห่งความคิด โดยแค่รู้ตัวว่าเรากำลังตกอยู่ในความคิดเท่านั้น เราก็ได้ก้าวออกมาแล้ว! เพชร โอสถานุเคราะห์ ปล. เห็นมีคนนำไปแชร์กันและจัดย่อหน้าทำให้อ่านง่ายขึ้น แต่มีหนึ่งจุดที่ผมปรับแก้ไขให้ถูกต้อง เลยเอามาแชร์อีกครั้งเพื่อประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติธรรมครับ