
สืบเนื่องจากข่าวดังสนั่น ดรามาผัวเกาหลี เมียหนีไปแต่งงานใหม่ พร้อมเงินหวย12 ล้าน จากกรณีที่ นายเอก อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังอยู่กินกับภรรยานานกว่า 20 ปี จนมีลูกด้วยกัน 3 คน จากนั้นตนไปทำงานที่เกาหลีใต้ แต่ยังคงส่งเงินให้ภรรยาใช้ทุกเดือน แต่หลังภรรยาถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 12 ล้าน กลับมีท่าทีเปลี่ยนไป และทราบข่าวว่าสุดท้ายหนีตนไปแต่งงานกับนายตำรวจคนดังในข่าว
ขณะที่ นางหวี อดีตภรนยา อายุ 43 ปี ได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.บ้านค่าย ระบุว่า อดีตสามีแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ออกมาพูดทำให้ได้รับความเสียหาย ผู้แจ้งเกรงว่าจะได้รับอันตรายและได้รับความเสียหาย จึงมาลงบันทึกเพื่อเป็นหลักฐาน โดยอดีตภรรยาเล่าว่า คนภายในหมู่บ้านรู้ดีว่า อดีตสามีนั้นเคยโทรมาบอกเลิกตน ตอนเขาทำงานอยู่ที่เกาหลี นานหลายปีแล้ว และยังเคยได้บอกกับลูกสาวว่าอยากจะขอแบ่งเงินมาใช้ทำธุระ และยังโทรมาบอกเลิกนานแล้ว ก่อนที่ตนเองจะถูกรางวัลที่ 1
ล่าสุด ปมร้อนที่สังคมไทยจับตา เช่นนี้ รายการดังฝั่งพระรามสาม หนุ่มกรรชัย ไม่รอช้า โดยทางรายการโหนกระแส ได้เชิญ "นายเอก" คนดังในข่าววันนี้ มาร่วมเป็นแขกคนล่าสุด เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ พร้อมทั้งโฟนอิน "นางหวี" อดีตภรรยา คู่กรณี เพื่อเข้ามาร่วมชี้แจง ร่วมโต้แย้งในมุมร้อนๆ ต่าง ๆ เพื่อพยายามคลี่คลายทุกข้อสงสัย ที่สังคมไทยคาใจ!
นับว่าตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงในรายการ ทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันในมุมตัวเอง แต่ต่างฝ่าย ต่างไม่มีหลักฐานมายืนยันว่า ช่วงเวลานับตั้งแต่ นายเอกบอกเลิกภรรยาเมื่อปี 2562 จนถึงวันที่ 1 มีนาคม 2564 ทั้งคู่ได้เลิกขาดจากกัน จริงหรือไม่?
เพราะด้าน "นายเอก" ก็มั่นใจและยืนยันชัดเจนว่า แม้ตน จะเอ่ยบอกเลิกนางหวีไปแล้ว แต่ก็ยังคอยส่งเงินให้ลูกสาว บอกให้นางหวีขายรถเอาเงินมาลงทุนขายลูกชิ้น ทั้งยังโอนเงินไปใช้หนี้ให้เมียอีกหลายหมื่น ถ้าเลิกกันแล้ว ตนจะทำแบบนั้นไปทำไม
ขณะที่นางหวีตอบโต้ว่า หลังเลิกกันในปี 2562 ก็ไม่ได้พูดคุยติดต่อกันอีก มีแต่ทางเขา (นายเอก) ที่ได้ติดต่อมาหาทางลูกสาว ซึ่งเรื่องระหว่างพ่อลูก ตนไม่เคยเข้าไปยุ่งด้วย ส่วนเงินที่เขาอ้างว่าส่งมา ก็ส่งมาเป็นค่างวดรถก่อนที่ขายรถ ไม่ใช่เงินที่จะใช้จ่ายในครอบครัว ตนก็ต้องขายลูกชิ้นหาเลี้ยงครอบครัวอยู่ดี
ท้ายที่สุดมีการเรียกลูกสาวคนโตมาคุยผ่านการโฟนอิน โดยหลังจาก "นายเอก" ได้ยินเสียงลูกสาวร้องไห้ ทำให้นายเอกบอกว่า "ผมสงสารลูก เชื่อว่าลูกสาวถูกครอบครัวทางภรรยาขู่บังคับให้กลัว"
ขณะที่ "นางหวี" ยืนยันอีกว่า ว่าไม่ได้บังคับลูกใดๆ แต่ลูกก็เสียใจที่ต้องมาพบมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ สุดท้าย ทั้งคู่จึงได้มาตกลงกันที่ข้อเสนอสุดท้าย นางหวีจะจ่ายเงินให้นายเอก 250,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่นายเอกส่งมาให้ดาวน์รถ แล้วเลิกแล้วต่อกัน ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก ส่วนเรื่องลูก ถ้าเขาจะไปมาหาสู่ มาเยี่ยมลูก ตนไม่เคยห้าม ซึ่งนายเอกก็ยอมรับข้อเสนอนี้เพราะบอกว่าสงสารลูก