svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

"เอ๋ อัจฉรา" รอดตายปาฏิหาริย์ หลายโรครุมเร้า ท้อจนไม่อยากตื่น

24 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นางเอกจักรๆ วงศ์ๆ "เอ๋ อัจฉรา" เปิดใจหลังป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ทรมานจนไม่อยากตื่น ล่าสุดรอดตายปาฏิหาริย์จากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน และไตวายเฉียบพลัน อาการหนักถึงขั้นตาบอด

อาการป่วยมีโรคอะไรบ้าง ?

"เริ่มตั้งแต่เป็น SLE ก่อน เท่าที่รู้ไม่สามารถหาสาเหตุมันได้ แต่เป็นโรคที่สามารถกระทบกับทุกส่วนของร่างกายได้ แล้วมันขึ้นสมอง ทำให้เส้นเลือดสมองตีบ ผ่าสมอง แล้วมันมาเกาะที่หัวใจ ทำให้หัวใจหัวใจวายเฉียบพลัน ต้องใส่ขดลวดหัวใจ ล่าสุดคือลงไต ตอนที่รู้ว่าเป็น SLE ก็ 20 กว่าปีแล้ว ตอนนั้นเริ่มเป็นปีกผีเสื้อเป็นผื่น ตอนแรกคิดว่าแพ้แดด พอมันเป็นหนักขึ้นเริ่มปวดตามข้อ ข้อเริ่มบวม ก็เริ่มไปตรวจหาสาเหตุที่ละเอียดขึ้น ถึงได้เจอว่าเป็น SLE ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่า SLE คืออะไร รู้ว่ามันเป็นโรคพุ่มพวง แพ้ภูมิตัวเอง"

"ตอนนั้นยังไม่น่ากลัวแค่รู้ว่าเป็นผื่น พออยู่นานไปมันมีผลกระทบต่อไตต่อสมอง ทำไมเราหันไม่ได้ ทำไมเลือดไหลออกทางหู ทำไมเลือดกำเดาไหลตลอด ทำไมข้อถึงบวม โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ทำให้มันสงบได้ ฉะนั้นเราต้องดูแลตัวเองมากๆ เพื่อให้โรคมันสงบ"

เอ๋ อัจฉรา

"พอมันเป็นเยอะ เราต้องให้เลือด เม็ดเลือดขาวมันจำเม็ดเลือดแดงไม่ได้ มันก็จะกิน พอมันกินกัน เราต้องให้เลือด พอให้เยอะๆ เชื้อโรคแฝงที่อยู่ในเลือดมันไปกระตุ้นมะเร็ง ทุกคนมีเชื้อมะเร็งหมดเลย แล้วเผอิญเราแจ็คพอตหน่อย ไปเจอเชื้อโรคที่มันเป็นเชื้อแฝง มันกระตุ้นมะเร็งขึ้นมา กลายเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ในขณะที่รักษามะเร็งมันก็ขึ้นสมอง ทำให้เส้นเลือดก้านสมองมันตีบ หันไม่ได้ มีเลือดกำเดาไหลตลอด ตอนแรกเข้าใจว่าตกหมอน ปวดคอ จน 1-2 วันเริ่มมีเลือดกำเดาไหลมากขึ้น มีเลือดออกที่หู ถึงได้ไปตรวจ หมอบอกเกิดจาก SLE เลยผ่าตัดสมองด้วยการเลเซอร์"

"หลังจากนั้นเกล็ดเลือดต่ำ มันไปกินเกล็ดเลือด หลังรักษามะเร็งแล้วต้องให้ยา ให้เลือด ทำคีโม เกิดการแพ้อะไรอย่างนี้ พอแพ้เขาก็ให้เม็ดเลือด กลายเป็นกินเม็ดเลือด พอเม็ดเลือดเราน้อย ปกติคนเรามีเม็ดเลือด 150,000-450,000 แต่ของเราเหลือประมาณ 9,000 เขาเลยจำเป็นต้องตัดม้าม ตัดไส้เมตรกว่า"

เอ๋ อัจฉรา เอ๋ อัจฉรา

 

 

มีภาวะแทรกซ้อนอย่างไตวาย ?

"ไตวายเฉียบพลัน กับหัวใจวายเฉียบพลันพร้อมกัน มันไม่ได้มีอาการแบบเธอกำลังตัวร้อนนะ กำลังเป็นไข้นะ ไม่มีเลย เข้าห้องน้ำตี 3 กว่า คือล้มไป หลังจากนั้นไปรู้สึกตัวอีกทีที่โรงพยาบาล เขาปั๊มหัวใจแล้วฉีดยากระตุ้นถึงได้รู้สึกตัว แล้วทำขดลวด แล้วย้ายไปสถาบันไตภูมิ เพื่อไปฟื้นไต ให้ไตทำงาน ตอนนั้นบวม 78 กิโล มันไม่ขับออก ร่างกายตรงไหนที่มีรูจะมีท่อหมดเลยยกเว้นหู ส่วนที่ไม่มีท่อก็โดนเจาะ ให้อาหารทางสาย ฟอกไต กระตุ้นไต จะมีช่วงนึงที่กลับมาอยู่บ้าน เวลาออกไปไหนหลายคนถาม ท้องเหรอ กี่เดือน ก็เลยให้ดู มันบวมน้ำ 19 สิงหาคม ปี 64 จนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน 3 เดือนที่อยู่บนเตียงไม่ได้ไปไหน ใช้แพมเพิสเป็นห้องน้ำ"
 
ป่วยหนักถึงขั้นตาบอด ?

"มันขึ้นตา มันมีภาวะน้ำตาลด้วย พอ SLE มันมา ก็ไม่รู้ว่าระบบของเชื้อโรคมันเป็นยังไง เริ่มจากตาบวม สักพักจมูก ปากเริ่มบวม ในขณะที่ตากับจมูกเริ่มบวม ตาก็จะมองไม่เห็น จะค่อยๆ บอด โดยที่ไม่มีแผล มองอะไรไม่เห็น ทุกอย่างมืด นั่นแหละที่ทำใจไม่ได้ แล้วเราจะได้เห็นลูกเหรอ คือมองไม่เห็นเลย หมอฉีดยาเข้าไปในตา เหมือนในตาขาดออกซิเจนด้วย ช่วงที่มองไม่เห็นเกือบเดือนก็มีพี่เลี้ยง มีเพื่อนคอยดูแล แล้วโทรคุยกับลูก คุยกับแม่ แม่จะมาเยี่ยมมาดูแล อยู่ใกล้หมอมากเลย กลัวตาบอดมาก สายตาสำคัญ มันไม่เห็นอะไรแล้วมันเป็นภาระคนอื่น ไม่เคยท้อนะ ไม่คิดมาก เป็นคนคิดบวก ถึงจุดจุดหนึ่งจะรู้สึกว่าไม่มีอะไรสำคัญเท่าการมีสุขภาพแข็งแรง แต่ถ้าวันนึงตาบอด เลือกที่จะตายดีกว่า ถ้าตาบอดไม่สามารถมองเห็นความสวยงามบนโลกนี้อีกแล้ว ได้แค่การสัมผัสไปจับ แล้วไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร นอกจากไปชิมหรือถามคนอื่น มันไม่ใช่เรา"

ผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มาได้ยังไง ?

"กำลังใจจากคนรอบข้างมันก็สำคัญ แต่ความเข้มแข็งของตัวเองสำคัญที่สุด ด้วยเหตุและผลที่เรามีลูกด้วยมั้ง แล้วยังมีคุณแม่ที่อายุมากแล้ว แล้วท่านก็ไม่สบายเป็นอัลไซเมอร์ เป็นสโตรกด้วย มีความห่วงตรงนั้นด้วย รู้สึกว่าเราเกิดมาเพื่อใช้กรรม เราคิดอย่างนั้นดีกว่า ทุกคนไม่มีใครสมบูรณ์ ทุกคนมีทุกข์ อยู่ที่ว่าบริหารทุกข์ยังไง ด้วยโรคด้วยอะไรเราน่าจะจากโลกนี้ไปก่อนทุกคน การเตรียมตัวของเรามีทุกเวลา มีคิดทุกเวลา มันก็พร้อมแล้วนะ อีกอย่างหนี้สินไม่มี ลูกก็โตแล้ว ช่วงเวลาที่อยู่ตรงนี้ทำยังไงก็ได้ ให้ยิ้มได้มากที่สุด หัวเราะได้มากที่สุด เสริมสร้างความสุขให้คนรอบข้างได้มากที่สุด"

ดูแลตัวเองยังไงบ้าง ?

"ต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ บางวันตื่นมาบวม หน้าเบี้ยว ถ้าเรานอนบนหมอนแล้วหน้าเราบวมขึ้นมา มันก็จะเป็นพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ต้องดูแลตัวเองมาก กินยาตรงเวลา ออกกำลังกายเท่าที่ออกไหว พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดรู้จักปล่อยวาง ยังต้องคุม SLE อยู่ด้วย ต้องกินสเตียรอยด์และให้ยาเคมีอยู่เป็นระยะๆ"

เอ๋ อัจฉรา

เอ๋ อัจฉรา

ที่มา : รายการคุยแซ่บShow 

logoline