นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ว่า ครม.เห็นชอบขยายระยะเวลา โครงการให้ความช่วยเหลือ ทางการเงิน แก่ผู้ประกอบกิจการในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา นราธิวาส ปัตตานี) วงเงิน 25,000 ล้านบาท ภายใต้มาตรการด้านการเงินสำหรับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกไปอีก 2 ปี 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 2566 – 30 มิ.ย. 2568 จากเดิมที่จะสิ้นสุด 31 ธ.ค.2565 หรือจนกว่าจะเต็มวงเงิน
พร้อมกันนี้ ครม.เห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการ อาทิ ขยายพื้นที่เป้าหมายครอบคลุม 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอเทพา อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย ,กำหนดวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อรายเพื่อให้ครอบคลุมผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ และ เข้าถึงสินเชื่อได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น และอนุมัติงบประมาณวงเงิน 1,250 ล้านบาท สำหรับชดเชยต้นทุนเงิน ให้กับธนาคารออมสิน ในการดำเนินโครงการด้วย
โครงการนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ความไม่สงบ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีเงินทุนเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจ เกิดความมั่นใจในการประกอบกิจการ และ มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
โดยธนาคารออมสินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการในอัตรา 0.01% ต่อปี และ สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการในอัตรา 1.5% ต่อปี 1 รวมทั้งธนาคารออมสินให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการโดยตรงในอัตรา 1.5% ต่อปี
โดยโครงการนี้ ดำเนินการมาแล้ว 5 ปี ตั้งแต่ปี 1 ม.ค. 2561 - 31 ธ.ค. 2565 อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว (ณ 24 พ.ย.2565) จำนวน 4,890 ราย รวมวงเงิน 20,872 ล้านบาท จากวงเงินโครงการทั้งหมด 25,000 ล้านบาท มีวงเงินคงเหลือจำนวน 4,128 ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการให้สินเชื่อต่อไป