svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

"ธุรกิจอาหาร" โตสวนเศรษฐกิจซบ 3 ปี มูลค่าตลาดแตะ 3 แสนล้าน

30 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“สินิตย์” เผยธุรกิจอาหารแช่แข็งไทย ยอดจดทะเบียนพุ่ง 84% นักลงทุนไทยแชมป์ มูลค่าการลงทุนกว่า 4.8 หมื่นล้าน รองลงมาเป็นญี่ปุ่น-จีน-สิงคโปร์

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ธุรกิจอาหารแช่แข็งของไทยกำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ความแข็งแกร่งของธุรกิจสะท้อนได้จากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลายธุรกิจล้วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ธุรกิจอาหารแช่แข็งยังคงสามารถเติบโตได้ดี

โดยดูจากมูลค่าตลาดเฉลี่ย 3 ปี มีตัวเลขกว่า 3 แสนล้านบาท (ปี 2562 มูลค่าตลาด 307,088.48 ล้านบาท ปี 2563 มูลค่า 283,864.95 ล้านบาท และ ปี 2564 มูลค่า 303,556.17) ขณะที่ ผลประกอบการยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปี 2564 มีผลกำไรถึง 10,568.88 ล้านบาท (ปี 2562 กำไร 7,363.03 ล้านบาท ปี 2563 กำไร 7,001.00 ล้านบาท) 

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากจำนวนนักลงทุนที่เข้าสู่ธุรกิจ พบว่า ช่วงเดือนม.ค. – ต.ค. มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่เพิ่มขึ้นจากปีช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 กว่า 84 %  หรือ เพิ่มขึ้น 42 ราย (ปี 2565 จัดตั้งใหม่ 92 ราย ปี 2564 จัดตั้ง 50 ราย) ขณะที่ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นถึง 283.62 % หรือ เพิ่มขึ้น 221.28 ล้านบาท (ปี 2565 ทุน 299.30 ล้านบาท ปี 2564 ทุน 78.02 ล้านบาท)

ภาพรวมของการลงทุนในธุรกิจฯ นักลงทุนชาวไทยครองแชมป์อันดับ 1 มูลค่าทุน 48,091.14 ล้านบาท สัดส่วน  86.20 % รองลงมา คือ ญี่ปุ่น ทุน 3,629.82 ล้านบาทสัดส่วน   6.51 %    จีน ทุน 1,038.45 ล้านบาท สัดส่วน  1.86 % สิงคโปร์ ทุน 813.89 ล้านบาท สัดส่วน  1.46 %) และ สัญชาติอื่นๆ ทุน 2,213.40 ล้านบาท  สัดส่วน  3.97 %       

สอดคล้องกับมูลค่าการส่งออกสินค้าแช่แข็งของไทยไปตลาดโลก จำนวน 8 รายการ (ผลไม้แช่แข็ง ผักสดแช่เย็นแช่แข็ง กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ปลาหมึกสดแช่เย็นแช่แข็ง เนื้อปลาและปลาสดแช่เย็นแช่แข็ง ปูสดแช่เย็นแช่แข็งนึ่งหรือต้ม ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง และเป็ดสดแช่เย็นแช่แข็ง) พบว่า

ช่วงเวลา 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ของปี 65 มีมูลค่าการส่งออก 87,896 ล้านบาท มากกว่าการส่งออกของปี63 ทั้งปี จำนวน 2,682 ล้านบาท (จากมูลค่าส่งออกรวมปี 63 : 85,214 ล้านบาท) ขณะที่การส่งออกของ 64 ทั้งปี มีมูลค่า 94,847 ล้านบาท (ที่มา : สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ และ กรมศุลกากร)

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ต.ค.) มีธุรกิจอาหารแช่แข็งดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทย จำนวน 833 ราย คิดเป็น  0.10  % ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ (849,958 ราย) และมีมูลค่าทุน 55,786.70 ล้านบาท คิดเป็น  0.28 % ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ (20.56 ล้านล้านบาท) ดำเนินกิจการในรูปแบบบริษัทจำกัด จำนวน 719 ราย คิดเป็น  86.32 % มูลค่าทุน 43,002.83 ล้านบาท

กิจการส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในภาคกลาง 292 ราย  สัดส่วน 35.05 %  ทุนจดทะเบียนรวม 20,109.83 ล้านบาทสัดส่วน 36.05 %   รองลงมา คือ กรุงเทพมหานคร จำนวน 179 ราย สัดส่วน 21.49 %       อันดับ 3 ภาคใต้ จำนวน 119 ราย สัดส่วน 14.29%     และจังหวัดในภูมิภาคที่มีนิติบุคคลคงอยู่สูงสุด คือ สมุทรสาคร จำนวน 134 ราย

นอกจากนี้หากพิจารณาเฉพาะสัดส่วนของธุรกิจอาหารแช่แข็งพร้อมทาน ซึ่งอยู่ในกลุ่มอาหารแช่แข็งพบว่า ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก (S) คิดเป็น  89.5 % รองลงมา คือ ธุรกิจขนาดกลาง (M) คิดเป็น  6.3 %  และธุรกิจขนาดใหญ่ (L) คิดเป็น  4.2 %

ซึ่งรายได้ของปี 2564 ลดลงจากปี 2563 ประมาณ  2.56 %  ในขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นกว่า 1.7 เท่า แสดงว่าธุรกิจอาหารแช่แข็งพร้อมทาน มีความสามรถในการบริหารต้นทุนมากขึ้น สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เน้นความสะดวกในการทานอาหาร

ธุรกิจอาหารแช่แข็งมีแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้นทั้งการจำหน่ายเพื่อบริโภคในประเทศ และเพื่อการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ เนื่องจากอาหารแช่แข็งสามารถเก็บรักษาได้นาน มีความได้เปรียบในการรักษาความสด และช่วยลดความถี่ในการออกไปซื้อของที่ตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต

โดยอาหารแช่แข็งมีกลุ่มลูกค้าทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยร้านอาหารซื้อเพื่อเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารสำหรับจำหน่ายให้ลูกค้า ส่วนผู้บริโภคซื้อเพื่อนำไปประกอบอาหารทานเองที่บ้าน หรือซื้ออาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานเพื่อความสะดวกในการบริโภค

 

 

logoline