ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย หรือ คสรท. สาวิทย์ แก้วหวาน ระบุ ได้ส่งหนังสือถึงประธานบอร์ด กสทช. เพื่อขอคัดค้านการรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC เพราะจะมีผลกระทบโดยตรงที่จะสร้างความเสียหายต่อสภาพการแข่งขันของตลาดสื่อสารโทรคมนาคมอย่างรุนแรง ทำให้ผู้บริโภคต้องทนรับสภาพการผูกขาดของตลาดโดยกลุ่มทุนเอกชน และการแข่งขันที่อ้างว่าประชาชนจะได้ประโยชน์นั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ และค่าบริการอาจสูงขึ้นแต่คุณภาพของการให้บริการจะแย่ลง
การที่ กสทช. จะยินยอมให้บริษัทกลุ่มทุนทั้ง 2 รายควบรวมกิจการและนำทรัพยากรคลื่นความถี่ของชาติไปแสวงหาประโยชน์ และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์สร้างความร่ำรวย มั่งคั่งให้แก่กลุ่มทุน โดยที่ผลประโยชน์นั้นไม่ได้ตกแก่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมจึงไม่มีความเป็นธรรมต่อประชาชนในชาติ
นอกจากนี้ ยังแทบเป็นไปไม่ได้ในอนาคตที่ กสทช. จะใช้อำนาจสั่งการให้มีการแยกกิจการที่ควบรวมไปแล้ว หรือแตกบริษัทออกเป็นบริษัทย่อยหลายบริษัทด้วยเหตุผลของการผูกขาดทางการค้า เพื่อที่จะส่งเสริมหรือสร้างตลาดแข่งขันเสรีได้ ดังนั้น กสทช. จึงไม่ควรมีมติที่จะทำลายตลาดแข่งขันเสรีของประเทศ จนยากที่จะแก้ไขเยียวยากลับคืนได้
อีกทั้งผลการศึกษา
ทางวิชาการที่ใช้แบบจำลองทางเศรษฐศาสตร์หลายฉบับ เช่น ผลการศึกษาของคณะอนุกรรมการด้านเศรษฐศาสตร์ของ กสทช. ผลการศึกษาของคณะอนุกรรมการด้านเศรษฐศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่างชี้ชัดว่า การควบรวมกิจการจะทำให้เกิดผลเสียต่อผู้บริโภค
ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ระบุว่า การสร้างให้เกิดสภาพตลาดผูกขาดเป็นการดำเนินการที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 คือ มาตรา 40 มาตรา 60 มาตรา 75 และมาตรา 258
การรวมธุรกิจระหว่าง TRUE และ DTAC ยังขัดต่อเจตนารมณ์ของประกาศคณะกรรมการโทรคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการควบรวมและการถือหุ้นไขว้ในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553
ที่ต้องการส่งเสริมตลาดแข่งขันเสรีเกิดขึ้นในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม โดยห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตกระทำการควบรวมกิจการอันส่งผลให้เกิดการครอบงำตลาดที่เกี่ยวข้อง
คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย จึงขอให้ กรรมการ กสทช.ยุติการควบรวมธุรกิจระหว่าง TRUE และ DTAC เพราะไม่เกิดผลดีต่อประเทศชาติ ประชาชน ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และขัดต่อเจตนารมณ์การก่อตั้ง กสทช. และขอให้รัฐบาล และ กสทช. สนับสนุน ส่งเสริม ให้ใช้กิจการด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมของรัฐเป็นเครื่องมือในการให้ทำหน้าที่เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการอย่างทั่วถึง เป็นธรรม เพราะเป็นภารกิจหน้าที่แห่งรัฐ อันเป็นเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้เกือบทุกฉบับรวมทั้งฉบับปัจจุบัน พ.ศ.2560
และขอให้ กสทช. ใช้อำนาจในการกำกับดูแลที่มีอยู่ตามกฎหมาย ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการจัดตั้งสำนักงาน กสทช. ที่เป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ ทำหน้าที่กำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม อันนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ ประชาชนและก่อให้เกิดการแข่งขันโดยเสรีและอย่างเป็นธรรม ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน