svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ปตท.คาดปีหน้า 'พลังงาน' ราคาจะถูกลงกว่าปีนี้

06 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ค่าเฉลี่ยทั้งปี 2565 ราคาพลังงานจะอยู่ที่บวกลบ 90-100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนแนวโน้ม ปี2566 น่าจะดีขึ้น คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ระดับ 85-95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ระบุ มองว่าค่าเฉลี่ยทั้งปี 2565 ราคาพลังงานจะอยู่ที่บวกลบ 90-100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนแนวโน้ม ปี2566 น่าจะดีขึ้น คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ระดับ 85-95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะรุ่นแรงน้อยกว่าปี 2565 แน่นอน สำหรับราคาก๊าซธรรมชาติ (LNG) ก็เช่นกัน เพราะก๊าซธรรมชาติถือเป็นเชื้อเพลงหลักในการผลิตไฟฟ้า อีกทั้งฤดูหนาวการใช้งานของประเทศฝั่งยุโรปจะสูงขึ้น ดังนั้น ช่วงปีหน้าราคาก็น่าจะถูกลงกว่าปีนี้

 

ภาคพลังงานมีความท้าทายมาก ดังนั้นจะต้องคำนึงคือ 1. การบริหารงานจะต้องบาลานซ์ให้ดีระหว่างความมั่นคงด้านพลังงานและตัวซัพพลายในการที่จะต้องบริหารอย่างไรให้พร้อมใช้งาน 2. พลังงานมีผลโดยตรงกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น จะทำอย่างไรให้กระทบกับสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะการกระทบด้านราคา เพราะเมื่อต้องการพลังงานที่กระทบสิ่งแวดล้อมน้อยจะต้องเลือกใช้พลังงานสะอาดแต่ราคาแพง ส่วนราคาน้ำมันเมื่อยิ่งมีราคาสูงก็จะยิ่งกระทบกับเศรษฐกิจ ถือเป็นความท้าทาย

สำหรับธุรกิจปตท. มองความท้าทายระดับองค์กรทั้งประเทศ โดยช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา ดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ อุตสาหกรรมบางตัวต้องเปลี่ยนแปลง ด้วยพลังงานข้างหน้าเริ่มไม่แน่นอน จึงต้องใช้หลักการอย่าแทงหวยตัวเดียว โดยองค์กรต้องปรับตัวเองให้เห็นทั้งลูกค้าและคู่ค้า จึงปรับวิสัยทัศน์จากเดิม “thai premier league multinational energy company” เป็น “powering life with future energy and beyond” หรือการขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต

 

สำหรับการดำเนินงาน ปตท. ได้โฟกัสใน 3 เรื่องคือ 1. การบริหารต่อหน่วยต้องให้มีประสิทธิภาพ เช่น ค่าความร้อนตั้งต้น และระหว่างการขนส่งที่เกิดขึ้นถึง 60% 2. สิ่งแวดล้อม ต้องพัฒนาพลังงานให้เกิดผลกระทบน้อยสุด และ 3. การผลิตพลังงานจะไม่ให้ปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเป็นศูนย์คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น จะต้องใช้เทคโนโลนยีการดักจับและการจัดเก็บคาร์บอน หรือ CCS เข้ามาช่วย

ปตท.คาดปีหน้า 'พลังงาน' ราคาจะถูกลงกว่าปีนี้

นอกจากนี้ ในภาพรวมระยะยาวจะยังไม่เปลี่ยนทันทีแม้ราคาสูง แต่ด้วยเทรนด์การเปลี่ยนโลกที่ต้องไปในทิศทางพลังงานสะอาด ดังนั้น การบริหารงานตามความท้าทายเดิม เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ จะต้องบริกหารอย่างไรให้ก้าวสู่พลังงานสะอาด ดังนั้น ถ่านหินถือว่าผ่านจุดที่เคยใช้ในปริมาณที่มากแล้ว ก็อาจจะกระตุกบ้าง แต่ระยะยาวต้องลดลงแน่ ส่วนน้ำมันจะยังคงอยู่ และจะค่อย ๆ ลดลงในอีก 10 ปีข้างหน้า ในขณะที่ก๊าซธรรมชาติถือเป็นเชื้อเพลิงทีมีอนาคตเพราะสะอาดที่สุด

สำหรับเป้าหมาย Net Zero นั้น ทั้งกลุ่มปตท.ได้รวมตัวทุกบริษัทจะต้อองประกาศเป้าหมายและทำให้ได้ก่อนเป้าหมายประเทศในปี 2065 เพื่อเพื่อช่วยหนุนเป้าหมายประเทศด้วย โดยกำหนดเป้าหมาย Net Zero ในปี2050 อาทิ เพิ่มพอร์ตพลังงานสะอาดเป็น 1.2  หมื่นเมะวัตต์ ปลูกป่าจาก 1 ล้านไร่เป็น 2 ล้านไร่ จากเดิม 1 ล้านไร่ ช่วยดูดซับคาร์บอนได้ปีละ 2 ล้านตัน เป็นต้น

logoline