svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

พานิชย์ เร่งยกระดับ สินค้าGI ขึ้นพรีเมียม เผย มูลค่าการตลาดกว่าสี่หมื่นล้าน

23 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รัฐบาล เร่งปั้นสินค้า GI ขึ้นระดับพรีเมียม พร้อมโปรโมทให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ระบุ มูลค่าการตลาดกว่าสี่หมื่นล้านบาทต่อปี

23 กันยายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามรัฐบาลมีนโยบายมุ่งส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันภาคการเกษตรและสินค้าท้องถิ่น โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งผลักดันการขึ้นทะเบียนสินค้าที่มีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geograpgical IDentification: GI) ซึ่งในประเทศไทยมีจำนวนมาก ซึ่งบ่งบอกถึงความพิเศษตามธรรมชาติและภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น

 

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

การขึ้นทะเบียน GI เป็นการป้องกันการแอบอ้าง และสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าได้อย่างมาก โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ ในปี 2565 กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าการขึ้นทะเบียนไว้ประมาณ 18 รายการ  ล่าสุดสามรายการ คือ ผ้าไหมคึมมะอุ จ.นครราชสีมา กล้วยหอมทองละแม จ.ชุมพร และมันแกวบรบือ จ.มหาสารคาม ซึ่งขณะนี้ มีสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI แล้ว 182 รายการ เป็นของไทย 164 รายการ และต่างประเทศ 18 รายการ

 

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังได้ให้แนวทางการต่อยอด เพื่อนำไปสู่การเพิ่มรายได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกรมทรัพย์สินฯ จะเข้าไปช่วยยกระดับสินค้า GI ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ด้วยการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างความเป็นสินค้าพรีเมียม จัดงานส่งเสริมการขายทั้งในและต่างประเทศ เช่น การจัดงาน GI Fest , GI Pavilion ในงานแสดงสินค้า THAIFEX 2022 การจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่านเฟซบุ๊ก GI Thailand และ Lazada รวมถึง รวมทั้งจะเร่งโปรโมตสินค้า GI ให้เป็นที่รู้จักทั้งในไทยและต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยการขึ้นทะเบียนสินค้า GI สามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า สี่หมื่นล้านบาทต่อปี

 

พานิชย์ เร่งยกระดับ สินค้าGI ขึ้นพรีเมียม เผย มูลค่าการตลาดกว่าสี่หมื่นล้าน

นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า กรมทรัพย์สินฯ ยังได้ดำเนินการขอขึ้นทะเบียนในต่างประเทศด้วย ขณะนี้ได้ยื่นขึ้นทะเบียน GI ใน 5 ประเทศ จำนวน 8 รายการ แล้ว ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง และข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ที่สหภาพยุโรป, เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน มะขามหวานเพชรบูรณ์ ที่เวียดนาม, กาแฟดอยตุง ที่กัมพูชา, ผ้าไหมยกดอกลำพูน ที่อินโดนีเซีย และที่อินเดีย ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารับจดทะเบียน อีก 10 สินค้า เช่น กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง สับปะรดห้วยมุ่น ที่ญี่ปุ่น ส่วนที่อยู่ระหว่าง พิจารณาจัดทำคำขอ คือ ไวน์เขาใหญ่ ที่สหภาพยุโรป

 

“สินค้า GI เป็นสินค้าที่เชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติและภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น มีเอกลักษณ์หรืออัตลักษณ์ที่เป็นจุดเด่นดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างประเทศ การยื่นขอขึ้นทะเบียนจึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพื่อปกป้องและคุ้มครองชื่อสินค้าให้ยังคงเป็นสิทธิของชุมชนเดิม ไม่ให้ใครแอบอ้างเอาชื่อสินค้าไปใช้ประชาสัมพันธ์ อีกทั้งยังช่วยทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักและเพิ่มมูลค่าด้วย” นางสาวรัชดา กล่าว

 

ขึ้นทะเบียนสินค้าที่มีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geograpgical IDentification: GI)

logoline