16 สิงหาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขอขึ้นราคาจากซองละ 6 บาทเป็น 8 บาท ว่า เป็นเรื่องจริงที่มาม่าเคยปรับราคาเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วครั้งหนึ่ง จากซองละ 5 บาทเป็นซองละ 6 บาท เมื่อปี 51 ซึ่งล่วงเลยมา 14 ปีแล้ว และได้ขอปรับราคาใหม่มาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่กรมการค้าภายในยังไม่อนุญาต เพราะต้องดูผลกระทบกับภาระของผู้บริโภคด้วย
แต่ตอนนี้ขอปรับจากซองละ 6 บาทขึ้นเป็นซองละ 8 บาท ส่วนตัวแล้วตนคิดว่า อาจจะมากเกินไป ถ้าสูงขนาดนี้จะกระทบผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยมากเกินสมควร แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับกรมการค้าภายในที่จะต้องไปดูต้นทุน เข้าใจว่าวิเคราะห์ต้นทุนทั้งหมดเสร็จแล้ว โดยให้นโยบายไปว่า ถ้าจะต้องปรับราคาขึ้น ต้องเป็นตามต้นทุนที่สูงขึ้นจริงและให้เดือดร้อนกับผู้บริโภคให้น้อยที่สุด ขณะเดียวกันให้ผู้ประกอบการสามารถอยู่ได้ ไม่ต้องถึงภาวะขาดทุนและหยุดการผลิตหรือส่งออกอย่างเดียวเพราะตลาดต่างประเทศราคาดีกว่า
“เพื่อให้ผู้บริโภคมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบริโภคต่อไป อธิบดีกรมการค้าภายใน จะเป็นผู้พิจารณาและถ้าต้องขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริง และถ้าต้นทุนปรับลดลงมา จะต้องมีการปรับราคาลงมาด้วย กรมการค้าภายใน ต้องติดตามสถานการณ์ต้นทุนอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ต้องยอมรับความจริงว่า ต้นทุนเพิ่มขึ้นทั้งค่าพลังงาน ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส ค่าขนส่งและต้นทุนการผลิตที่เป็นวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นข้าวสาลีและน้ำมันพืช เป็นต้น” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว