svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวสถานการณ์

"ผู้ช่วย ผบ.ตร." เล็งคุย "ตำรวจกัมพูชา" หลังผุดแนวคิดส่งตำรวจไทยไปสังเกตการณ์ปัญหา "สแกมเมอร์"

"ผู้ช่วย ผบ.ตร." เล็งคุย "ตำรวจกัมพูชา" หลังผุดแนวคิดส่งตำรวจไทยไปสังเกตการณ์ปัญหา "สแกมเมอร์" แม้ถูกหลอกก็ต้องสู้ ยันไทยไม่ใช่รายใหญ่แต่รับมีรายย่อย

4 พฤศจิกายน 2568 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการประชุมการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 (The 43rd ASEANAPOL Conference) ในวันนี้ (4พ.ย.) ว่า รองผู้บัญชาการตำรวจกัมพูชาได้มาร่วมประชุมด้วย ได้พูดคุยกันในเบื้องต้นว่า ตำรวจกัมพูชาได้ตั้ง 2 ทีมใหญ่ขึ้นมา ที่จะกวาดล้าง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งจะพยายามประสานงาน กับเขา ตามข้อตกลง 4 ข้อที่ นายกรัฐมนตรีลงนามไว้ และจะคอยติดตามดูว่าเขาจะทำให้เราแค่ไหน

 

"ผู้ช่วย ผบ.ตร." เล็งคุย "ตำรวจกัมพูชา" หลังผุดแนวคิดส่งตำรวจไทยไปสังเกตการณ์ปัญหา "สแกมเมอร์"


"ผู้ช่วย ผบ.ตร." เล็งคุย "ตำรวจกัมพูชา" หลังผุดแนวคิดส่งตำรวจไทยไปสังเกตการณ์ปัญหา "สแกมเมอร์"

 

"ผู้ช่วย ผบ.ตร." เล็งคุย "ตำรวจกัมพูชา" หลังผุดแนวคิดส่งตำรวจไทยไปสังเกตการณ์ปัญหา "สแกมเมอร์"

 

"ผู้ช่วย ผบ.ตร." เล็งคุย "ตำรวจกัมพูชา" หลังผุดแนวคิดส่งตำรวจไทยไปสังเกตการณ์ปัญหา "สแกมเมอร์"

 

 

 

 

ส่วน จะมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ แบบทวิภาคีและมีการลงนามใดหรือไม่

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เราทำไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ในการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียนครั้งนี้ จะมีการประชุมแต่ละประเทศ และจะมีการหารือ ระหว่างไทย กับกัมพูชาด้วย ขณะในเรื่องของสแกมเซ็นเตอร์ เป็นเรื่องที่ทุกคนร้องขอ ทั้งสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลียและจีน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักที่ทุกคนต้องพูดคุยกัน และจะต้องเป็นความร่วมมือระดับโลกที่ต้องร่วมมือกัน และแม้กัมพูชาไม่ได้ร้องขอมา แต่ทุกประเทศต้องการพูดคุยเรื่องนี้

 

 

เมื่อถามว่าหากกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือทั้งที่ทั่วโลกล้อมกรอบกันอยู่ จะได้รับการแก้ไขอย่างถาวรหรือไม่

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ก็ต้องลองกัน เพราะในที่ประชุมนี้ตนต้องการพูดคุยกับกัมพูชา ในการส่งตำรวจ เข้าไปประจำอยู่ในประเทศ กัมพูชาเพื่อสังเกตการณ์ รวมถึงประเทศอื่นๆที่มีปัญหาเรื่อง สแกมเมอร์และอาชญากรรมออนไลน์ แต่ในเรื่องของอำนาจหน้าที่และกฎหมาย ไม่สามารถไปจับกุมหรือสอบสวนในประเทศนั้นได้ เป็นแค่ทำงานใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ ส่วนในประเทศไทยก็จะยังคงทำงาน สืบสวนสอบสวน และระบุเป้าหมายของสแกมเมอร์ต่างๆ ที่สำคัญเราต้องการส่งทีมไปเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ในการลงพื้นที่ และส่วนตัวเชื่อว่าการส่งเจ้าหน้าที่ไปเป็นเรื่องที่ดี กว่าที่จะสังเกตการณ์อยู่ฝั่งประเทศไทย

 

 

เมื่อถามว่าหากส่งเจ้าหน้าที่ไปถูกไล่กลับมาจะทำอย่างไร

พล.ต.ท.จิรภพ ระบุว่า ถูกหลอกก็ต้องยอมเราก็ต้องสู้ เราจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ส่วนเขาจะทำหรือไม่ ให้ทุกประเทศในโลกตัดสิน เพราะเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของทุกประเทศในขณะนี้

 

"ในส่วนของประเทศไทยยืนยันว่า ไม่มีสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ มีเล็กๆที่แอบทำ เมื่อไหร่ที่เรามีข้อมูล จากประเทศเราเอง หรือจากตำรวจต่างประเทศ เราพร้อมจับทันที ผมการันตีได้ว่า ขอให้แจ้งมา ว่าศูนย์สแกมเมอร์อยู่ที่เรา ยืนยันว่าจับได้แน่นอน พวกนี้อาจอยู่ในประเทศไทย" พล.ต.ท.จิรภพ กล่าว

 

 

ส่วนจะเชื่อใจกัมพูชาได้หรือไม่

พล.ต.ท.จิรภพ ระบุว่าถึงแม้ เคยผิดหวังแต่รอบนี้สังคมโลกเห็นชัดว่าสแกมเมอร์อยู่ที่ไหน เพราะหวังว่าสักวันกัมพูชาจะร่วมมือด้วยพลังของนานาประเทศที่ไปพูดคุยกับเขา ทั้งนี้จะทำให้เร็วที่สุดแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะภายในกี่วัน

 

 

เมื่อถามว่าจะต่อสายตรงพูดคุยกับตำรวจกัมพูชาได้หรือไม่

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เรามีช่องทางติดต่อ

 

 

เมื่อถามย้ำว่าหากกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่จะมีมาตรการใดกดดันหรือไม่

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ต้องใช้สังคมโลกกดดัน เพราะสแกมเมอร์ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยประเทศเดียว อีกทั้งในกลุ่มของสแกมเมอร์พูดได้หลายภาษาจะยื่นหลักฐานเพิ่มเติมให้กัมพูชาเรื่อยๆ

 

 

เมื่อถามว่าเหมือนเป็นการที่ไทยเอาความลับไปชี้เป้าให้กัมพูชา ห่วงหรือไม่ที่ความร่วมมือจะไม่เกิดขึ้น

พล.ต.ท.จิรภพ ระบุ จะใช้วิธีส่งไปทีละเป้า ถ้าไม่สำเร็จ ก็จะไม่ส่งเพิ่ม ส่วนจะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ความร่วมมือของกัมพูชา เราจะดูจากผลปฏิบัติเป็นหลัก